เปิด 4 บจ.เตรียมเฮ หลังคลังเล็งออกมาตรการช่วยแบต - สถานีชาร์จ EV

.
หุ้นกลุ่มแบตฯ - สถานีชาร์จ EV เตรียมเฮ หลังภาครัฐฯ เตรียมออกมาตรการช่วยต่อจากเรื่องภาษีรถ ฟาก EA แนะ หาซอฟต์โลนให้กลุ่มสถานีชาร์จ และเงินสนับสนุนธุรกิจแบตฯ เพื่อแข่งกับตปท. ฟาก ASPS แนะ 4 หุ้นทำแบตฯ เตรียมรับอานิสงส์เต็มๆ
.
หลังจากกระทรวงการคลัง ออกมาส่งสัญญาณว่ากำลังพิจาณามาตรการช่วยผู้ประกอบการธุรกิจ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภาคผู้ผลิตแบตเตอรี่ และสถานีชาร์จไฟ จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีมาตรการลดภาษีให้กับกลุ่มยานยนต์ไปแล้ว โดยกระแสดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดี จากทางมุมของผู้ประกอบการ และนักวิเคราะห์ เนื่องจากเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่า ภาครัฐฯได้เดินหน้าอย่างจริงจังเพื่อผลักดันโครงการพลังงานสะอาดของไทย
.
* คลังเตรียมอัดแพ็ค หนุนแบตฯ- สถานีชาร์จ ต่อยอดจากภาษีรถ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการเพิ่มเติม โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการติดตั้งสถานีอัดประจุ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าและช่วย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
.
“ที่ผ่านมาเรามีมาตรการสนับสนุนในด้านราคา มาตรการภาษีแล้ว เกี่ยวกับตัวรถ ในระยะต่อไป ก็จะเป็นการส่งเสริมสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งค่ายรถหลายค่ายก็มีแนวคิดที่จะมีในที่ศูนย์บริการต่างๆ ก็ถือเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้มีสถานีมากขึ้นทั่วถึงขึ้น”นายอาคม กล่าว
.
โดยยอมรับว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญของไทย ภาครัฐจึงได้ออกมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าประเภท รถยนต์ และรถจักรยานต์ ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้น 4 ปี ตั้งแต่ปี 65-68 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการผลิต การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ทั้งในเรื่องการการลดภาษีสรรพสาทิต การลดอัตราอากรศุลกากร และการให้เงินอุดหนุน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้บริโภคเพื่อเลือกซื้อยานยนต์ไฟฟ้าในราคาจับต้องได้
.
ทั้งนี้กรมสรรพสามิต กับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีแผนจะจำหน่ายรถไฟฟ้า รุ่น bZ4X โดยจะได้รับสิทธิลดอากรศุลกากร ลดภาษีสรรพสามิตและรับเงินอุดหนุน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้บริโภคเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้
.
* แย้มปีนี้ มีผู้ประกอบการรถ EV ร่วมโครงการภาษีอีก 5 ราย
.นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้เกิารการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยการใช้มาตรการทางภาษี เช่น การลดภาษีสรรสามิต และลดอากรศุลกากร และมาตรการที่ไม่ใช่ทางภาษี คือการให้เงินอุดหนุน
.
นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนให้ราคาของรถยนต์และรถจักรยานต์ไฟฟ้ามีราคาลดลงใกล้เคียงกับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาป สร้างแรงจูงใจให้มีการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสนิมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน เป็นต้น
.
ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 65 จะมีบริษัทผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้นำเข้ารถยนต์และรถจักรยนต์ BEV เข้าร่วมลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมมาตรการฯ กับกรมสรรพสามิตอีกไม่น้อยกว่า 5 ราย
.
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ก่อให้เกิดอุปสงค์ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
.
ด้านสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ถือเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และนำไปพิจารณาด้านนโยบายที่เหมาะสมต่อไป
.
* EA ฝาก 2 เรื่องด่วนให้ภาครัฐ ช่วยกลุ่มแบตฯ - สถานีชาร์จ
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผย "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่าสำหรับกรณีที่รัฐบาลประกาศเล็งออกมาตรการหนุนธุรกิจผลิตแบตเตอรี่และสถานีชาร์จ EV นั้น มองว่าประเด็นดังกล่าวหากเกิดขึ้นจริงก็จะทำให้บริษัทแข่งขันได้ดีขึ้นและจะเป็นผลบวกต่อ EA ค่อนข้างมาก เพราะบริษัททำธุรกิจในด้านนี้โดยตรง
.
โดยคาดว่าภาครัฐคงอยากผลักดันให้เกิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่และสถานีชาร์จ EV ในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าจะมีในส่วนของมาตรการด้านภาษี อาทิ การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ก็คงจะมีการสนับสนุนให้แก่ผู้ประกอบการ
.
ทั้งนี้สิ่งที่ต้องมองต่อไปคือ การกำหนดราคาค่าไฟฟ้าจากภาครัฐ หลังจากช่วงที่ผ่านมาภาครัฐได้ส่งเสริมผ่านการคิดอัตราค่าไฟในต่ำที่ 2.639 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี แก่ผู้ประกอบการสถานีชาร์จ EV ที่ผ่านการตรวจสอบและอนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ แต่ที่ผ่านมาอาจติดขัดปัญหาการการตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐที่ล่าช้า ทำให้ผู้ประกอบการที่ติดตั้งสถานีชาร์จ EV บางจุดยังไม่สามารถเปิดให้ดำเนินการได้เต็มที่ ซึ่งอยากให้ปรับปรุงการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รวดเร็วขึ้น ประกอบกับมาตรการให้ค่าไฟราคาต่ำจะหมดอายุภายในปีนี้ ซึ่งต้องติดตามว่าภาครัฐจะต่ออายุออกไปอีกหรือไม่และจะคิดราคาค่าไฟแก่ผู้ประกอบการที่อัตราเท่าไหร่
.
ขณะที่มาตรการที่ต้องการจากภาครัฐแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ
. 1. ผู้ให้บริการสถานีชาร์จ EV มองว่าปัจจุบันผู้ประกอบการสถานีชาร์จ EV ตอนนี้ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการรถ EV ยังน้อยเมื่อเทียบกับเงินลงทุนสถานีแต่ละแห่ง จึงอยากให้ภาครัฐออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) ให้แก่ผู้ประกอบการสถานีชาร์จ EV หรือนำแบงก์รัฐมาช่วยซัพพอร์ตสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือเงินกู้ระยะยาว เพราะหากไม่ช่วยตรงนี้ก็คงไม่เกิดโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ไม่มีแหล่งเงินทุนมากๆเหมือนบริษัทขนาดใหญ่ๆ รวมถึงอยากให้ภาครัฐกำหนดโซนนิ่งหรือจัดสรรพื้นที่ในการติดตั้งสถานีชาร์จ EV ให้แก่ผู้ประกอบการว่าแต่ละพื้นที่ควรไม่เกินเท่าไหร่ เพราะปัจจุบันยังมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณไฟฟ้าของแต่ละพื้นที่ด้วย
. 2.ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ อยากเสนอให้ภาครัฐมีเงินอุดหนุนบางส่วนให้กับผู้ประกอบการในประเทศเพื่อให้เกิดการแข่งขันได้ เนื่องจากต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ผู้ประกอบการแต่ละรายยังไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติได้ ซึ่งมองว่าช่วงเริ่มต้นตั้งหลักภาครัฐควรลงมาช่วยประคับประคองให้ธุรกิจเดินไปได้ก่อน ซึ่งเชื่อว่าในระยะยาวแต่ละบริษัทก็จะเดินหน้าต่อไปได้เอง รวมถึงอาจมีมาตรการส่งเสริมสิทธิประโยชน์สำหรับแบตเตอรี่ฯที่มีชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
.
* โบรกฯ ยก เห็นสัญญาณดีต่อหุ้นกลุ่ม EV หลังภาครัฐจริงจังมากขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า เห็นสัญญาณในการที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ เซ็นสัญญารับสิทธิประโยชน์ต่างๆ กับ ภาครัฐฯในการนำเข้ารถยนต์ EV เข้ามาขาย แลกกับการต้องมาตั้งฐานการผลิตรถ EV ในประเทศไทยในอนาคต โดยก่อนหน้านี้เป็นค่า GWM และ MG ล่าสุดเป็นค่ายใหญ่ของญี่ปุ่นได้แก่ Toyota ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ EV ในประเทศไทย
.
สำหรับสถานะของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ปี 64 มีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ที่จดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น 92.7%yoy มาอยู่ที่ 5.8 พันคัน คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.2% ของจำนวนรถจดทะเบียนใหม่ทุกประเภทของไทยปี 64 โดยมียอดสะสมที่ 1.1 หมื่นคัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.03% ของจำนวนรถสะสมทุกประเภทของไทยในปัจจุบันที่ 42.3 ล้านคัน
.
* เปิด 4 บจ.ยักษ์ทำแบตฯ มีโครงการอะไรบ้าง
สำหรับแบตเตอรี่ ASPS ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าต่อจากนี้ โดยมีผู้ประกอบการในไทย นำโดย EA ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ phase 1 ขนาด 1 พัน MWh ส่วนระยะถัดไปมีแผนขยายการผลิตไปให้ถึง 4.9 หมื่น MWh
.
ถัดมาได้แก่ GPSC ผ่านการร่วมทุนกับ PTT โดยจัดตั้งบริษัท NUOVO PLUS (สัดส่วนถือหุ้น 49:51) ซึ่งปัจจุบันNUOVO PLUS มีโรงผลิตแบตฯ กำลังการผลิตรวม 141 MWh ทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน และร่วมลงนาม MOU กับ Foxconn เพื่อศึกษาความเป็นไปได้สำหรับจัดตั้งโรงงานผลิต Platform และส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาด EV ในอนาคต ผ่านการจับมือกับ Foxconn บริษัทสัญชาติไต้หวันร่วมศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนตั้งโรงงานผลิต Platform และส่วนประกอบสำคัญสำหรับ EV ในประเทศไทย
.
ส่วนการผลิตแบตเตอรี่มีบริษัทลูก GPSC ที่มีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ 30.0 MWh มาพัฒนาและทดลองใช้ภายในกลุ่ม PTT นอกจากนี้GPSC ยังได้เข้าถือหุ้น 11.1% ในบริษัท AXXIVA ประเทศจีน ซึ่งกำลังก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ 1.0 พัน MWh เพื่อนำมาใช้สำหรับลูกค้ายานยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน คาดCOD ได้ภายในปี 2566
.
นอกจากนี้ยังมี BANPU NEXT (BANPU และ BPP ถือหุ้นบริษัท ละ 50%) เข้าลงทุน 47% ใน Durapower ประเทศจีน มีโรงงานรองรับการผลิตแบตเตอรี่ได้ 1.0 พัน MWh สำหรับใช้ทั้งในอุตสาหกรรม EV และระบบกักเก็บพลังงานรวมถึง BCPG ซึ่งมีโครงการนำร่องโดยการนำแบตเตอรี่ 1.4 MWh มาใช้กักเก็บพลังงานในการผลิตไฟฟ้า และได้เข้าซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพบริษัท VRB ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับกักเก็บพลังงานในประเทศจีน
