ห้องเม่าปีกเหล็ก

E-Commerce ไทย: สดใสสำหรับทุกคน?

โดย GREEN WAY
เผยแพร่ :
66 views

E-Commerce ไทย: สดใสสำหรับทุกคน?

เมื่อพูดถึง “E-Commerce ไทย” หลายคนนึกถึงแคมเปญ 11.11, 12.12 หรือแฟลชเซลล์รายวัน แต่เบื้องหลังความคึกคักนั้นคือโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างจริงจัง ตลาด E-Commerce ไทยในปี 2568 มีมูลค่ากว่า 6.13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2560 และเติบโตเฉลี่ยปีละ 13% ครอบคลุมสินค้าตั้งแต่ของใช้รายวันจนถึงของหรู เป็นเวทีที่ผู้ค้ารายเล็กสามารถอยู่ร่วมกับแพลตฟอร์มยักษ์ได้ — ถ้ามีกลยุทธ์ที่เฉียบพอ

 

สดใสสำหรับ ผู้บริโภค

ฝั่งผู้บริโภคดูจะได้ประโยชน์เต็มที่ E-commerce เป็นตลาดแบบผู้ซื้อผู้ขายหลายราย มีการแข่งขันสูง ราคาจึงสมเหตุสมผล พร้อมโปรโมชันส่งฟรี ดีลด่วน และความสะดวกจากการจัดส่งถึงหน้าบ้าน แม้แต่สินค้าชิ้นใหญ่ การเทียบราคาก็ทำได้ทันทีผ่านแอป แต่นั่นอาจไม่ใช่สวรรค์สำหรับทุกคน เพราะใครที่ชอบเห็นของจริงก่อนซื้อหรือชอบบรรยากาศเดินช็อป อาจรู้สึกว่าอะไรบางอย่าง “ขาดหายไป”

 

สดใสสำหรับ SMEs

SMEs ก็ได้อานิสงส์อย่างมาก โดยเฉพาะในตลาด B2C ที่มีมูลค่ากว่า 3.2 ล้านล้านบาท การเข้าตลาดง่ายขึ้นเพียงมีมือถือ อินเทอร์เน็ต และความกล้าในการไลฟ์ขายสินค้า ประกอบกับจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่แตะ 65.4 ล้านคน และโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ช่วยสร้างโอกาสให้ธุรกิจรายย่อยแข่งขันได้ในเวทีเดียวกับแบรนด์ใหญ่

 

สดใสสำหรับ ผู้ประกอบการรายใหญ่

ธุรกิจรายใหญ่ก็ได้เปรียบจากตลาด B2B ที่มีมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท การหาคู่ค้าทางธุรกิจทำได้ง่ายขึ้น และยังมีองค์กรกลาง เช่น Thai E-Commerce Club คอยตรวจสอบความน่าเชื่อถือ

 

สดใสสำหรับ ห้างสรรพสินค้า

ห้างสรรพสินค้าจำเป็นต้องปรับตัว โดยใช้กลยุทธ์ “การตลาดสองทาง” คือทั้งหน้าร้านสำหรับลูกค้าที่ชอบบรรยากาศการเลือกซื้อ และช่องทาง E-Commerce สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก ควบคู่ไปกับการยกระดับพนักงานให้มีความรู้สินค้า และสามารถให้คำแนะนำเชิงลึกได้

 

สดใสสำหรับ ธุรกิจบริการเฉพาะด้าน

ธุรกิจบริการเฉพาะทางก็เข้าสู่ E-Commerce อย่างรวดเร็ว เช่น ประกันภัยที่เติบโตเกิน 100% หรือบริการสอนพิเศษ การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และการวางแผนการเงิน ล้วนแปรสภาพเป็นบริการที่ขายได้ออนไลน์

 

สดใสสำหรับ สรรพากรและสรรพสามิต

แม้กระทั่งสรรพากรและสรรพสามิตก็เริ่มมีรอยยิ้ม เพราะข้อมูลจากระบบดิจิทัลช่วยติดตามธุรกรรมได้ง่ายขึ้น หากสามารถจัดเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย รัฐก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องขึ้นภาษีใหม่

 

สดใสสำหรับ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม

แม้ว่าแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่ครองตลาดในปัจจุบันจะเป็น Shopee และ Lazada แต่หากมีผู้พัฒนาแพลตฟอร์มรายใหม่ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้ได้ลึกกว่า ก็อาจเกิดการ “ย้ายแพลตฟอร์ม” ได้ง่าย เหมือนกรณี Temu ที่เริ่มเป็นที่นิยมในตลาดไทย

 

สดใสสำหรับ ธุรกิจต่อเนื่อง

การเติบโตของ E-Commerce ยังส่งผลให้ธุรกิจต่อเนื่องเฟื่องฟู ตั้งแต่บริษัทโลจิสติกส์ การเช่าคลังสินค้า ไปจนถึงการเกิดขึ้นของอาชีพใหม่อย่างไรเดอร์นับแสนคนทั่วประเทศ

 

สดใสสำหรับ มิจฉาชีพ

แต่ในเงามืดของการเติบโต ยังมี “มิจฉาชีพออนไลน์” ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งหลอกขายของ ปลอมแปลงข้อมูล ไปจนถึงปิดกิจการหนีหลังได้เงิน หากไม่เร่งปรับกฎหมายและการดำเนินคดี ความน่าเชื่อถือของตลาดอาจถูกบั่นทอนลงในระยะยาว

 

ท้ายที่สุดแล้ว

แม้ E-Commerce จะดู “สดใส” สำหรับหลายฝ่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ “เท่าเทียม” สำหรับทุกคน ผู้ค้ารายเล็กที่ไม่มีทุนด้านโฆษณาหรือโลจิสติกส์ ยังคงต้องรับมือกับการแข่งขันแบบ “แข่งราคาจนหมดแรง”

ในขณะที่แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ได้เปรียบจากการสะสมข้อมูลธุรกรรม ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

 

E-Commerce ไทยจึงเป็นภาพสะท้อนสำคัญว่า

“การเข้าถึง” และ “การได้ประโยชน์จริง” อาจไม่ใช่เรื่องเดียวกันเสมอไป

และการเติบโตนี้จะ สดใสสำหรับทุกคน ได้จริง ก็ต่อเมื่อ...

เรามีนโยบายที่เอื้อต่อรายย่อย คุ้มครองผู้บริโภค และปิดช่องผูกขาดเศรษฐกิจดิจิทัลไว้ได้อย่างแท้จริง

.

เรื่องและภาพ: สิทธิศักดิ์ ชุณหรุ่งโรจน์ Economist, Bnomics

════════════════

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก..  Bnomics by Bangkok Bank


GREEN WAY