ห้องเม่าปีกเหล็ก

อาทิตย์นี้ส่องหุ้นพื้นฐานดีอย่าง MAKRO ไว้สักหน่อยก็ดีครับ

โดย slark
เผยแพร่ :
71 views

MAKRO ผุดแพลตฟอร์มตลาดค้าส่งออนไลน์ (MAKNET) วางเป้าอันดับ 1 ของไทย ภายใน 3 ปี คาดมีลูกค้าใช้บริการ 5 แสนราย ชูเป็น New S-Curve ในยุคดิจิทัล ดันสัดส่วนรายได้ออนไลน์แตะ 30% จากปัจจุบันที่ 12% พร้อมอัดงบลงทุน 1.1 หมื่นล้านบาท ขยายสาขาในไทยและต่างประเทศ 35 แห่ง รวม MAKNET มั่นใจยอดขายปีนี้เติบโตต่อเนื่อง

 

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนา B2B Marketplace หรือตลาดค้าส่งออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการ ภายใต้ชื่อ“MAKNET” ซึ่งจะมีสินค้าของแม็คโคร และสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงร้านค้าพันธมิตรมาอยู่ในแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันบริษัทก็ได้รับผลดีจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขายดังกล่าว

 

โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมายจะเป็นแพลตฟอร์มตลาดสินค้าออนไลน์เพื่อผู้ประกอบการเป็นอันดับ 1 ของไทย โดยตั้งเป้าหมาย 3 ปี หรือภายในปี 2567 จะมีลูกค้าผู้ประกอบการ 500,000 ราย และมีผลิตภัณฑ์สินค้ากว่า 350,000 SKU ร้านค้าเข้าร่วมเพิ่มเป็น 7,000 ราย จากปัจจุบันนี้มีจำนวนร้านค้าเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มแล้วประมาณ 1,000 รายและมีลูกค้าผู้ประกอบการประมาณกว่า 1,000 ราย

 

*เปิดตัวไตรมาส 2

 

ทั้งนี้แพลตฟอร์ม MAKNET จะเป็นการต่อยอดการเติบโตของธุรกิจและเป็น New S-Curve ในยุคดิจิทัล ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ Omni Channel เพิ่มขึ้นเป็น 30% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 12% นอกจากนี้จะเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร เพราะมีสินค้าที่หลากหลาย และมีบริการจัดส่งไปให้

 

ขณะเดียวกันก็ยังแก้ปัญหาพื้นที่สโตร์ที่จำกัดจากการที่มีสินค้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นการใช้ MAKNET จะช่วยทำให้ไม่ต้องมีการเพิ่มพื้นที่ขายในสโตร์สินค้า รวมถึงเป็นโอกาสของซัพพลายเออร์ในการนำสินค้ามาขายผ่านช่องทางออนไลน์ดังกล่าว สำหรับ MAKNET จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 2/2565 นี้ ขณะเดียวกันบริษัทได้ใช้งบในการพัฒนาแพลตฟอร์มในช่วง 4 ปีนับจากปี 2564 -2567 ประมาณ 2,000 ล้านบาท

 

*ขยายตลาดต่างแดน

 

"เชื่อมั่นว่าด้วยจุดแข็งของแม็คโครที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจกับ B2B กว่า 30 ปี ทำให้เรามีความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการอย่างลึกซึ้ง และด้วยความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เติบโตมาด้วยกัน ทำให้ MAKNET เป็นแพลตฟอร์มที่ครบวงจรสำหรับ B2B มีจุดเด่นครอบคลุมสินค้ากว่า 100,000 รายการ ประกอบกับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการเลือกซื้อสินค้าอย่างสะดวก ผ่านช่องทางออนไลน์” นางสุชาดา กล่าว

 

ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะนำระบบ MAKNET ดังกล่าวไปใช้ขยายในตลาดต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการต่อยอดการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้วบริษัทจะรุกในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายในประเทศประมาณ 95% และในต่างประเทศ 5% เพราะมองว่า MAKNET จะเป็นเครื่องจักรที่สำคัญสำหรับแม็คโครที่สามารถทำธุรกิจออนไลน์อย่างไม่มีขีดจำกัด

 

*วางงบลงทุน 1.1 หมื่นล.

 

นางสุชาดา กล่าวต่อว่า แม้แพลตฟอร์ม MAKNET จะช่วยทำให้ไม่ต้องขยายพื้นที่สโตร์ แต่ในปีนี้บริษัทก็มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งงบเพื่อขยายสาขาและใช้ในธุรกิจออนไลน์ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่มเป็น 35 สาขา แบ่งเป็นสาขาในไทยจำนวน 30 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสาขาขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ประมาณ 1-2 พันตารางเมตร เพื่อที่จะได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะใช้สาขาใหญ่เป็นฮับในการจัดส่งสินค้า ขณะเดียวกันในปีนี้ก็จะมีการเปิดสาขาในต่างประเทศเพิ่มอีก 5 แห่ง ได้แก่ที่ประเทศอินเดีย จำนวน 3 สาขาและที่กัมพูชา จำนวน 2 สาขา ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2565 แม็คโคร มีสาขาในประเทศไทยทั้งหมดจำนวน 144 สาขา และในต่างประเทศจำนวน 7 สาขา

 

สำหรับยอดขายในปีนี้ ก็คาดหวังว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ก็ยังมีอยู่ โดยบริษัทก็พยายามที่จะรักษาฐานลูกค้าและยอดขายให้เติบโตจะเห็นได้ว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทก็ยังมีการเติบโต

 

ที่มา : ทันหุ้น
https://www.thunhoon.com/article/253963


slark