อะไรที่ผลักดันดัชนี S&P และ Dow Jones ถึงจุดสูงสุด
หากพูดถึงตลาดหุ้นขนาดใหญ่ของโลกคงหนีไม่พ้นตลาด Wall Street ของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งในอาทิตย์ที่ผ่านมาได้สร้างประวัติศาสตร์ โดยดัชนีอย่าง S&P 500 และ Dow Jones ได้ทำจุดสูงสุด อย่างดัชนี S&P 500 ปิดตลาดทำ New High ที่ 2,930.75 จุด ในวันพฤหัสบดี และ ปิดอ่อนตัวลงเล็กน้อยที่ 2,929.67 จุด ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ Dow Jones ทำจุดสูงสุดปิดตลาดวันศุกร์ที่ 26,743.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายอย่างคึกคักถึง 657.6 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม อะไรเป็นจุดที่ทำให้ตลาดหุ้นอเมริกาถึงสามารถทำจุดสูงสุดขนาดนี้ ท่ามกลางความตรึงเครียดของการเจรจาตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมไปถึงปัจจัยด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นไตรมาศ 3 อีกไม่กี่วัน
หากมาดูบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีแล้ว พบว่า Apple ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าสูงสุดและเป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่าทางตลาดถึง 1 ล้านล้านเหรียญ สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือน โดยราคาของหุ้น ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 222.19 เหรียญ (25 ก.ย. 2561) เพิ่มขึ้นจากราคาปิด 185.11 เหรียญ เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้น 20 เปอเซนต์ในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 2 เดือน จึงไม่แปลกใจเลยว่า Apple จึงเป็นหุ้นหนึ่งที่ผลักดันดัชนี S&P 500 มาถึงจุดนี้ได้
อย่างไรก็ตาม Facebook บริษัทยักษ์ใหญ่อีกหนึ่งบริษัทที่มีผลต่อดัชนี S&P 500 ราคาปรับตัวลดลงจากราคา 194.32 เหรีญ (เมื่อสิ้นเดือนมิถุนยายน 2561) เหลือเพียง 164.91 เหรียญในราคา ณ ปัจจุบัน (25 ก.ย. 2561) หรือลดลงถึงเกือบ 18 เปอเซนต์ ซึ่งมีผลให้มูลค่าทางตลาดของบริษัทหายไปถึง 120 พันล้านเหรียญ ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน สาเหตุหลัก อาจเนื่องมาจาก การเติบโตของผู้ใช้งานลดน้อยลง รวมไปถึงยอดขายที่ลดน้อยลง ซึ่ง Facebook เองจึงเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ฉุดให้ดัชนี S&P 500 ลดลงถึง 4 เปอเซนต์
นอกจากนั้น หากดูหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ บริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ Intel, Netflix, Twitter สามารถล้วนมีส่วนที่ผลักดันให้ดัชนี S&P 500 ขึ้นไปได้
โดยรวมแล้ว จะเห็นได้ว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐมีบทบาทต่อดัชนีหลักอย่าง S&P 500 เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีหุ้นบางตัวเช่น Facebook จะฉุดดัชนีอยู่บ้าง แต่หุ้นยักษ์ใหญ่อื่นๆ โดยเฉพาะ Apple ยังมีส่วนสำคัญที่สามารถผลักดัชนีขึ้นต่อไปได้ ในฐานะลงทุนไทย การได้เห็นหรือได้ศึกษาหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้วอาจจะมีส่วนช่วยให้เห็นแนวโน้มและมีส่วนช่วยในการตัดสินใจเลือกหุ้นของเราก็ได้ครับ