ราคาน้ำมันดิบพุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน เหตุกำลังการผลิตตึงตัว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ว่า ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นประมาณ 3% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากมีสัญญาณกำลังการผลิตตึงตัวก่อนฤดูร้อนในสหรัฐ เนื่องจากสหภาพยุโรป (EU) ขัดแย้งกับฮังการีเรื่องแผนการแบนน้ำมันดิบที่นำเข้าจากรัสเซีย

ผู้ค้ายังตั้งข้อสังเกตว่าราคาน้ำมันเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ซึ่งทำให้น้ำมันราคาถูกลงเมื่อซื้อในสกุลเงินอื่น

โดยเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 3.37 ดอลลาร์ หรือ 3.0% ปิดที่ 117.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสขั้นกลาง (WTI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.76 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 114.09 ดอลลาร์

หลังจากเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 6 วันติดต่อกัน เบรนท์ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม WTI ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม

“ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากตลาดน้ำมันที่ตึงตัวจะยังคงอยู่ในจุดเดิม เนื่องจากช่วงเริ่มต้นของฤดูขับรถในฤดูร้อนจะทำให้ปริมาณสต็อกในสหรัฐลดลง” เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของบริษัทข้อมูลและการวิเคราะห์ OANDA กล่าว

Charles Michel ประธานสภายุโรปกล่าวว่าเขามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนการประชุมครั้งต่อไปของสภาในวันที่ 30 พฤษภาคม

ขณะที่ฮังการียังคงเป็นอุปสรรค เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปต้องการการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ ฮังการีกำลังกดดันเงินประมาณ 750 ล้านยูโร หรือประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายโรงกลั่นและท่อส่งน้ำมันจากโครเอเชีย แม้จะไม่มีการสั่งห้ามอย่างเป็นทางการ แต่น้ำมันของรัสเซียก็ยังหาได้น้อยมาก เนื่องจากผู้ซื้อและผู้ค้าหลีกเลี่ยงซัพพลายเออร์จากประเทศ

สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรายงานโดยอ้างรองนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ โนวัก ว่าการผลิตน้ำมันของรัสเซียน่าจะลดลงเหลือ 480-500 ล้านตันในปีนี้ จาก 524 ล้านตันในปี 2564 

ขณะที่กลุ่ม OPEC+ จะประชุมกันในวันที่ 2 มิถุนายน และคาดว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงของปีที่แล้วที่จะเพิ่มเป้าหมายการผลิตในเดือนกรกฎาคมขึ้น 432,000 บาร์เรลต่อวัน โดยปฏิเสธว่าตะวันตกเรียกร้องให้ควบคุมราคาขึ้นเร็วขึ้น 

อ้างอิง : https://www.reuters.com/markets/commodities/oil-firms-tight-supply-though-eu-ban-russian-oil-still-uncertain-2022-05-26/