พอกันที Go Global ตลาดไทยคืออนาคต (อย่าเพิ่งด่า อ่านให้จบก่อน )
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นักลงทุนทุกคน ถ้าใครตามเพจมานานจะรู้ว่าแอดนี่แหละ ตัวแม่แห่งการชวนทุกคน "Go Global" ออกไปท่องโลกกว้าง อเมริกาเอย จีนเอย ยุโรปเอย เพราะเราอยากได้การเติบโตแซ่บๆ เป็นเจ้าของบริษัทปังๆ ระดับโลกใช่ไหมคะ
แต่วันนี้... แอดจะขอสวนกระแสแบบ 360 องศาค่ะ พับแผนการโอนเงินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเลย วันนี้เราจะปักหลักที่นี่ "ตลาดไทย" บ้านเรานี่แหละค่ะ! หัวข้อของเราวันนี้คือ "ตลาดไทย ลงทุนอะไรดี"
ห้ะ! อะไรนะคะ? ได้ยินเสียงถอนหายใจแรงมาก! บางคนอาจจะคิดว่าแค่ SET เด้ง 200 จุด ทำแอดเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า ตลาดไทยเนี่ยนะ? มีแต่หุ้นคุณปู่ พลังงาน ธนาคาร ค้าปลีก วนไปค่ะ ไม่เห็นมีอะไรที่จะมาเปลี่ยนโลกได้เลย ถ้าอยากได้การเติบโตแบบก้าวกระโดด ต้องไปนอกสิ
ใจเย็นๆ ก่อนค่ะทุกคน ฟังแอดก่อน แอดขอยืนยันว่าตลาดไทยเรามีดีกว่าที่คิด โอกาสระดับ "เวิลด์คลาส" ซ่อนอยู่ในตลาดหุ้นไทยนี่แหละค่ะ

เชื่อไหมว่าเราสามารถเป็นเจ้าของบริษัทเทคฯ เบอร์หนึ่งของโลก หรือแบรนด์หรูที่ใครๆ ก็แย่งกันซื้อได้ โดยไม่ต้องแลกเงินดอลลาร์เลย ใช้แค่เงินบาทในแอปสตรีมมิ่งที่เรากดกันทุกวันนี่แหละ
เริ่มตาลุกวาวแล้วใช่ไหมคะ? ทุกคนคงกำลังรอว่าดิฉันจะใบ้หุ้นเด็ดตัวไหน...
เฉลยเลยแล้วกันค่ะ (กระซิบ) โอกาสที่ว่านี้... มันไม่ใช่การไปเคาะซื้อหุ้นไทยแท้ๆ หรอกค่ะ แต่มันคือการลงทุนในบริษัทระดับโลกที่เขามา "แฝงตัว" อยู่ในตลาดหุ้นไทยต่างหากล่ะคะ
และกุญแจสำคัญที่ทำให้เราทำแบบนี้ได้ก็คือ DR (Depositary Receipt) ค่ะ
DR คืออะไร? ทำไมถึงเป็นสะพานสู่การลงทุนระดับโลก?
มาทำความเข้าใจคำนี้กันง่ายๆ นะคะ DR หรือชื่อเต็มๆ ว่า "ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ" ฟังดูทางการ แต่ถ้าอธิบายแบบบ้านๆ DR ก็เหมือนกับ "ตั๋วแทน" หรือ "ใบรับฝาก" ค่ะ
ลองนึกภาพตามนะคะ สมมติเราอยากซื้อหุ้น Apple ที่อเมริกา แทนที่เราจะต้องโอนเงินข้ามประเทศ แลกเงินเป็นดอลลาร์ และไปเปิดพอร์ตที่ต่างประเทศให้ยุ่งยาก ก็มีสถาบันการเงินในไทย (ผู้ออก DR) ทำหน้าที่เป็นธุระให้ค่ะ เขาจะไปซื้อหุ้น Apple ของจริงที่ตลาดหุ้นอเมริกามาเก็บไว้ แล้วออก "DR" ที่อ้างอิงกับหุ้น Apple นั้น มาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นไทยแทน
ดังนั้น เมื่อเราซื้อ DR ในตลาดไทย ก็เท่ากับว่าเราได้สิทธิความเป็นเจ้าของในหุ้นต่างประเทศจริงๆ ค่ะ ถ้าราคาหุ้นที่ต่างประเทศขึ้น ราคา DR ในไทยก็จะปรับขึ้นตาม ถ้าเขามีปันผล เราก็ได้ด้วย (อาจมีการหักค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไข) มันคือการลงทุนหุ้นนอก ในคราบหุ้นไทย ซื้อขายง่าย สะดวกเหมือนซื้อหุ้นในประเทศทุกประการเลยค่ะ
และที่สำคัญคือ ไม่ต้องปวดหัวกับภาษีหุ้นนอกค่ะ
แต่ยังมีผลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอยู่เหมือนเดิมนะคะ
ตลาดไทย มีบริษัทระดับโลกอะไรให้เลือกลงทุนบ้าง?
พอเข้าใจคอนเซ็ปต์ของ DR แล้ว ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่าตลาดไทยของเรามีเพชรเม็ดงามระดับโลกซ่อนอยู่มากแค่ไหน บอกเลยว่าเยอะจนน่าตกใจค่ะ มีตั้งแต่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีไปจนถึงแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลในชีวิตประจำวันของเรา
เริ่มที่ฝั่งอเมริกากันก่อน ดินแดนแห่งนวัตกรรม ถ้าพูดถึงสมาร์ตโฟนและ ecosystem ที่แข็งแกร่งที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น Apple ใช่ไหมคะ เราสามารถลงทุนใน Apple ผ่าน DR ที่ชื่อว่า AAPL80 ได้เลยค่ะ หรือถ้าใครเป็นสาย AI และชิปประมวลผลที่กำลังมาแรงสุดๆ นาทีนี้ต้อง Nvidia เท่านั้น ซึ่งก็มีให้ลงทุนผ่าน NVDA80 ค่ะ อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ที่ขาดไม่ได้คือ Microsoft ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และบริการคลาวด์ระดับโลก เราก็ลงทุนได้ผ่าน MSFT80 ค่ะ
นอกจากสายเทคโนโลยีแล้ว เจ้าพ่อแห่งโลกโซเชียลมีเดียอย่าง Meta (เจ้าของ Facebook และ Instagram) เราก็สามารถร่วมเป็นเจ้าของได้ผ่าน META80 ค่ะ และสำหรับคอหนังคอซีรีส์ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ปฏิวัติวงการบันเทิงอย่าง Netflix ก็มีให้ลงทุนผ่าน NFLX80 เช่นกันค่ะ
ข้ามมาดูฝั่งเอเชียเราบ้างค่ะ ประเทศจีนที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจก็มีบริษัทชั้นนำมากมาย ถ้าพูดถึงแพลตฟอร์ม E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ต้องยกให้ Alibaba ซึ่งเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจนี้ได้ผ่าน BABA80 ค่ะ และถ้านึกถึงบริษัทที่เป็นเจ้าของแอปแชต (WeChat) และเกมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในจีน ก็ต้อง Tencent เลยค่ะ เราลงทุนได้ผ่าน TENCENT80
ส่วนกระแสที่กำลังร้อนแรงอย่างรถยนต์ไฟฟ้า คงไม่มีใครไม่รู้จัก BYD ผู้นำ EV จากจีน เราก็ลงทุนได้ผ่าน BYDCOM80 ค่ะ และอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่าง Art Toy ที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง บริษัท Popmart ก็มีให้เราลงทุนในตลาดไทยผ่าน POPMART80 ด้วยนะคะ
ถ้าใครชอบความเป็นญี่ปุ่น ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและเทคโนโลยี ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ อย่างเช่น Toyota บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก ก็มี DR ในชื่อ TOYOTA80 หรือถ้าใครเป็นสายเกมและความบันเทิง เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Nintendo เจ้าของเกม Mario และเครื่องเล่นเกมยอดฮิต เราก็ลงทุนได้ผ่าน NINTENDO19 ค่ะ นอกจากนี้ใครที่เป็นสายอารยธรรมกับ Sony เราก็มี SONY80 ให้เลือกอีกเช่นกันค่ะ
สุดท้าย ลองไปดูฝั่งยุโรปกันบ้าง ดินแดนแห่งความหรูหราและเทคโนโลยีขั้นสูง ถ้าพูดถึงอาณาจักรแบรนด์หรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คงต้องเป็น LVMH (Louis Vuitton Moët Hennessy) ซึ่งเราสามารถลงทุนได้ผ่าน LVMH01 ค่ะ และอีกหนึ่งบริษัทที่สำคัญมากๆ ต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ อย่าง ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิป ก็มีให้เราลงทุนผ่าน ASML01 เช่นกันค่ะ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ ยังมียักษ์ใหญ่อีกมากมาย เช่น Tesla (TSLA80) หรือ Google (GOOG80) ที่รอให้เราไปเป็นเจ้าของในตลาดไทยค่ะ
เห็นไหมคะว่า การลงทุนในตลาดไทย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บริษัทไทยเสมอไปนะคะ ด้วยเครื่องมืออย่าง DR ทำให้เราสามารถกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงโอกาสการเติบโตระดับโลกได้ง่ายๆ จากที่บ้านของเราเอง
ดังนั้น ถ้าถามว่า "ตลาดไทย ลงทุนอะไรดี" คำตอบก็คือ "ลงทุนในบริษัทระดับโลก ผ่านตลาดไทย" นี่แหละค่ะ โอกาสยังมีอยู่เสมอ อยู่ที่เราจะคว้ามันไว้หรือเปล่าค่ะ
ที่มา. เพจ Beauty Investor