เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ หรือที่คนชอบเรียกเขาว่า J.L. เกิดในครอบครัวชาวไร่ที่ยากจน เขาทะเลาะกับพ่อจนต้องหนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุได้ 15 ปี เขาเริ่มงานแรก และน่าจะเรียกว่าเป็นงานเดียวในชีวิตก็คือ เป็นเด็ก “เคาะกระดานหุ้น”
หลังจากนั้น..เพียงปีเดียว เขาก็เริ่ม “เล่นหุ้น” แต่เนื่องจากมีเงินน้อย เขาจึงเริ่มเล่นตาม “ห้องค้าเถื่อน”ที่รับ “แทงหุ้น”โดยอิงกับราคาหุ้นบนกระดาน โดยการเก็งกำไรครั้งแรกร่วมกับเพื่อนของเขา เขาสามารถทำกำไรได้ถึง $3.12 ต่อหุ้น หลังจากนั้นไม่นานเขามีกำไรสะสมถึง $1,000
เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ จากการเป็นนักเก็งกำไรในหุ้น เขาไม่เชื่อในการถือหุ้นระยะยาว และในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่เชื่อเรื่องเทคนิคัลซึ่งเขามองว่าเป็นสัญญาณที่สับสน วิธีการของเขาคือการมองมหภาค บวกกับการจดบันทึกการเคลื่อนไหวของหุ้นที่เขาสนใจติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ เพื่อทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของรายใหญ่ ที่เล่นหุ้นตัวนั้นอยู่ (รวมทั้งพฤติกรรมของตัวเขาเองด้วย) เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ สามารถจดจำราคาหุ้นที่เขาซื้อในอดีตได้อย่างแม่นยำมาก เขาเชื่อว่าพื้นฐานของบริษัทไม่มีความจำเป็น เพราะเวลาตลาดหุ้นเป็นขาลง หุ้นทุกตัวก็จะลงกันหมด โดยไม่สนใจว่าหุ้นตัวไหนพื้นฐานดีหรือไม่ดี
เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ เป็น millionaire ได้ตั้งแต่ก่อนอายุครบ 30 ปี และเริ่มมีชื่อเสียงมากจากการ short หุ้นช่วงตลาดหุ้น crash ปี 1907 ซึ่งเขาทำได้กำไรได้มากถึง 3 ล้านเหรียญในวันเดียว (เทียบเท่ากับเงิน $60 ล้านในปัจจุบัน) ในเวลานั้น JP Morgan ต้องติดต่อไปยังเขาเพื่อขอร้องให้เขาหยุด short หุ้น เพื่อสกัดวิกฤตการเงินมิให้ลุกลาม ในปี 1929 เขาก็ short หุ้นครั้งใหญ่อีกครั้งทำให้เขาได้กำไรมากกว่า $100 ล้าน
แต่น่าเสียดายที่ชีวิตของเจสซี่ ลิเวอร์มอร์ ก็เปรียบเหมือนกราฟราคาหุ้นที่มีขึ้นมีลง ชีวิตเขาเคยร่ำรวยหลายครั้ง และก็จนหลายครั้งเช่นเดียวกัน แต่ทุกครั้งที่จน เราก็สามารถเทรดกลับมาให้รวยได้อีกครั้งหนึ่ง เป็นเพราะว่าเขามีปรัชญาการเก็งกำไรที่แน่วแน่ และไม่เคยหลุดจากกรอบการเก็งกำไรของเขาเลย
ในชีวิตส่วนตัวของ เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ เป็นคนเจ้าชู้ เขามีภรรยาหลายคน ภรรยาคนแรกของเขาเป็นคนสุรุ่ยสุร่ายมาก ลูกของเขาถึงสามคนจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ครอบครัว เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ มีปัญหามาอย่างต่อเนื่องจนทำให้เขาเริ่มมีอาการซึมเศร้าเมื่อเข้าสู่บั้นปลายชีวิตและยิงตัวตายเมื่ออายุได้ 63 ปี โดยได้เขียน โน็ตสั้นๆไว้ก่อนตายว่า "ล้มเหลว" โดยในช่วงก่อนตายเขาเพิ่งจะสูญเสียเงินจำนวนมากในตลาดหุ้นและยังไม่สามารถทำกำไรกลับคืนมาได้ อย่างไรก็ตาม หลังการเสียชีวิตของเขาพบว่า เขายังคงมีทรัพย์สินเหลืออยู่ประมาณ $5 ล้าน!!!
.. เรามาดูกันว่าปรัชญาสั้นๆ 20 ข้อ ของ เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ มีอะไรกันบ้าง..




















