KS มองกลุ่มไฟแนนซ์ครึ่งหลังปี 66
ผู้ประกอบการกลุ่มการเงินผ่านอะไรมามากมายตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา จากสภาวะเศรษฐกิจที่ผ่อนคลายมากขึ้นในปี 2566 หลังพวกเราเข้าสู่ยุคหลังโควิด-19 เราจึงมองย้อนกลับไปเพื่อสังเกตถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและผลกระทบต่อผู้ประกอบการกลุ่มการเงินตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา
เห็นได้ชัดว่าสวัสดิการและความสามารถโดยรวมในการชำระคืนหนี้สินของประชากรไทยยังอ่อนแอจากระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงและรายได้ครัวเรือนระดับต่ำแม้ผู้ออกหลักเกณฑ์กำหนดระเบียบข้อบังคับออกมามาหมายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เราเห็นหลายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น ลดเพดานอัตราดอกเบี้ย, ปรับโครงสร้างหนี้สิน, ลดค่าธรรมเนียมในการเรียกเก็บหนี้สินและเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ซึ่งมาตรการช่วยเหลือทั้งหมดดังกล่าวส่งผลกระทบเชิงลบต่อผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการกลุ่มการเงินหากตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการอะไรเลย อย่างไรก็ดี เราเห็นผู้ประกอบการกลุ่มการเงินปรับตัวตามเพื่อบรรเทาผลกระทบเห็นได้จากกำไรสุทธิของกลุ่มที่ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น เช่น เพิ่มผลิตภัณฑ์เงินกู้ใหม่และรายได้อื่น ๆ
สถานการณ์ตลาดโดยรวมคาดจะสมเหตุสมผลมากขึ้น เราคาดว่าสถานการณ์ตลาดของทุกกลุ่มจะสมเหตุสมผลมากขึ้นแม้คาดการแข่งขันจะยังอยู่ในระดับสูงในปี 2566-67 ในส่วนของสินเชื่อรถบรรทุกและทะเบียนรถยนต์เป็นหลักประกัน ผู้เล่นหลายรายที่เพิ่มการเติบโตของสินเชื่อในเชิงรุกตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปยังการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพสินทรัพย์มากกว่าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ แม้สถานการณ์ตลาดปัจจุบันไม่ค่อยปกติจากกลยุทธ์เพิ่มการเติบโตในเชิงรุกของผู้เล่นบางรายเพื่อชดเชยเพดานดอกเบี้ยที่ 23% แต่เราเชื่อว่าจะไม่คงอยู่ตลอดไปเนื่องจากคาดว่าปัจจัยเสี่ยงต่อสินเชื่อจะสูงขึ้นและจะส่งผลให้ NPL สูงขึ้นในท้ายที่สุด
ยังมุ่งเน้นไปยังเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ เราเชื่อว่านักลงทุนจะจับตามองประเด็นเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ของผู้ประกอบการกลุ่มการเงินอย่างต่อเนื่องในปี 2566 และเราแนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นเนื่องจากบริษัทที่มีคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นจะบันทึกค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ลดลงและจะส่งผลให้แนวโน้มกำไรสุทธิดีขึ้น
ในส่วนของสินเชื่อรถบรรทุก เราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะแตะระดับต่ำสุดแล้วในช่วงครึ่งแรกปีนี้และเราชอบผู้ประกอบการสินเชื่อรถบรรทุกใหม่ (ASK และ THANI) มากกว่าผู้ประกอบการสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง (MICRO) จากแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น สำหรับสินเชื่อทะเบียนรถยนต์เป็นหลักประกัน เราชอบ TIDLOR มากกว่า SAWAD และ MTC เนื่องจากเราคาดว่า TIDLOR จะเป็นผู้เล่นรายแรกทีออกจากวัฎจักร NPL ในปี 2566
เราคงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มการเงินเนื่องจากเราคาดว่ากลุ่มมีปัจจัยบวกและลบพอ ๆ กัน ในส่วนของปัจจัยบวก เราเชื่อว่าผู้ประกอบการกลุ่มการเงินจะได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจากแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่ดีขึ้นและต้นทุนเงินทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดีในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบของกลุ่มคาดจะมาจาก 1) นโยบายจากผู้กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ไม่ใช่ผู้ประกอบการและ 2) แนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอจากความสามารถในการชำระคืนหนี้สินของลูกหนี้ที่อยู่ระดับต่ำ
