ห้องเม่าปีกเหล็ก

รวบ 6 หุ้น! โบรกฯ สั่งให้ “ขาย”

โดย เม่าคาวบอย
เผยแพร่ :
284 views

รวบ 6 หุ้น! โบรกฯ สั่งให้ “ขาย”

หลังผลงานไม่สดใส- ราคาแพงเกินไป

.

มีนักลงทุนไม่น้อยที่ได้ให้ความสำคัญ หรือการตัดสินใจลงทุนหุ้นรายตัว ผ่านมุมมองความคิดเห็น และบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ที่แสดงออกมาต่อหุ้นรายตัวนั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าความคิดเห็นส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งด้านดีและลบ ปะปนกันในหุ้นหนึ่งตัว

.

แต่จะมีหุ้นสักกี่ตัวที่นักวิเคราะห์ จะเทคะแนนเสียงไปฝั่งเดียวกัน ซึ่งในวันนี้ทาง Wealthy Thai ก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลของ 6 หุ้น ที่โบรกเกอร์ได้ให้คำแนะนำ หรือให้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ออกมาเป็นทางฝั่ง “ขาย” เยอะที่สุด มาแบ่งปันให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนที่สนใจ

.

เริ่มกันที่หุ้นขวัญใจมหาชน หรือ เรียกว่าถูกพูดถึงในทุกสถานการณ์อย่าง บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ที่ได้รับความคิดเห็นของนักวิเคราะห์จาก 14 โบรกเกอร์ แต่มีถึง 13 โบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” และมีเพียง 1 โบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำ “ซื้อ”

.

โดยบทวิเคราะห์ของบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) หนึ่งในโบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” ได้ให้ความเห็นไว้ว่า ระดับราคาหุ้นที่ซื้อขายในปัจจุบันสูงเกินไป และด้วยระดับ P/E ที่สูงถึง 70 เท่า เมื่อเทียบกับการเติบโตในอนาคตที่ไม่สูงมากนัก ทำให้ในเชิงของพื้นฐานไม่สามารถดึงดูดความน่าสนใจได้

.

ถัดมาที่บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ที่ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ทั้งหมด 12 โบรกเกอร์ แต่มีถึง 7 โบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” และอีก 5 โบรกเกอร์ ได้ให้คำแนะนำ “ถือ”

.

โดยบทวิเคราะห์ของบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) หนึ่งในโบรกเกอร์ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” ได้ให้ความเห็นไว้ว่า ราคาซื้อขายของ LPN ในปัจจุบันบน P/E ที่ 10.1 เท่า ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม และแนวโน้มกำไรปี 2566 มีโอกาสที่ต่ำกว่าคาดการณ์ 10-20% จากฐานยอดขายรอโอน (Backlog) ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ

.

ต่อมาบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ที่ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์จาก 9 โบรกเกอร์ แต่มีถึง 5 โบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” และอีก 4 โบรกเกอร์ ได้ให้คำแนะนำ “ถือ”

.

ด้านบทวิเคราะห์ของบล.ทิสโก้ หนึ่งในโบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า แนวโน้มผลประกอบการของ KEX ในปี 2566 ยังดูไม่สดใส ตามรายได้ต่อชิ้นที่ลดลงและการแข่งขันด้านราคายังยืดเยื้อไปจนถึงครึ่งปีหลังปี 66

.

ถัดไปเป็นบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ที่ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ทั้งหมด 7 โบรกเกอร์ ได้ให้คำแนะนำที่แตกต่างกันออกไป แต่เสียงข้างมากหรือมีถึง 3 โบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” ขณะเดียวกันมี 2 โบรกเกอร์ ให้คำแนะนำ “ถือ” และอีก 2 โบรกเกอร์ ให้คำแนะนำ “ซื้อ”

.

ด้านหนึ่งในความคิดเห็นของโบรกเกอร์ที่แนะนำให้ “ขาย” อย่างบล. กรุงศรี พัฒนสิน ที่ได้ให้มุมมองไว้ว่า ราคาหุ้นในปัจจุบันรับปัจจัยบวกเรื่องการยิงดาวเทียมดวงใหม่ไปมากแล้ว สะท้อนจากระดับซื้อขาย P/BV ที่ 1.6 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่แพงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

.

สำหรับหุ้นตัวต่อมาก็คือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ความเห็นของนักวิเคราะห์จาก 6 โบรกเกอร์ ได้ให้ความคิดเห็นแตกต่างกันออกไปเป็นหลากหลายทาง แต่ก็มีถึง 3 โบรกเกอร์ ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” ขณะที่มี 2 โบรกเกอร์ ได้ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และอีก 1 โบรกเกอร์ ให้คำแนะนำ “ถือ”

.

โดยบทวิเคราะห์ของบล. กรุงศรี พัฒนสิน ที่เป็นหนึ่งในผู้ให้คำแนะนำ “ขาย” ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า ธุรกิจหลักในปี 2566 ยังคงมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ช้า และราคาหุ้นในปัจจุบันได้สะท้อนข่าวดีไปแล้ว

.

สุดท้ายหุ้นที่เราจะหยิบยกขึ้นมาในวันนี้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ที่ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ทั้งหมด 4 โบรกเกอร์ ซึ่งได้มีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันหรือได้ให้คำแนะนำ “ขาย”

.

ขณะที่ความคิดเห็นของหนึ่งใน 4 โบรกเกอร์ อย่างบล.กรุงศรี พัฒนสิน ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” ระบุว่าไว้ว่า ผลประกอบการในปี 2566 ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน และในเชิงของมูลค่าหุ้นที่ซื้อขายบน PE ที่ 86 เท่า เป็นระดับที่สูงสุดและแพงสุดในกลุ่ม

 

 


เม่าคาวบอย