ห้องเม่าปีกเหล็ก

หุ้นไทยขาดปัจจัยหนุน แนะ 5 หุ้น

โดย พญาหงส์
เผยแพร่ :
301 views

หุ้นไทยขาดปัจจัยหนุน SET แกว่งไม่เกิน 1,400 จุด โบรกฯแนะ 5 หุ้นรับราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,380 - 1, 400 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้การที่ตัวเลข GDP ไตรมาส 4/66 ของไทยออกมาต่ำกว่าคาดโดย  +1.7% และมีการปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 67 เหลือ 2.2-3. 2% (เดิมคาด 2.7- 3.7%) จะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามแรงซื้อกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับดีดตัวขึ้นได้


โดยกลยุทธ์การลงทุน Selvectie buy PTTEP TOP SPRC BCP BSRC รับราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง, PSL TTA RCL อานิสงส์ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น และ BDMS WHA CPALL BJC AAI PLANB SABINA SISB MASTER SNNP SPA  แนวโน้มไตรมาส 4/66 เติบโต 


สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้  ROJNA (ปิด 6.05 ซื้อ/เป้า 7.30 บาท) โดย ROJNA ทำยอดขายที่ดินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมาที่ 2,110 ไร่ มากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 500 ไร่ต่อปี ช่วยตุน Backlog ในมือสร้างการเติบโตของรายได้ไปอีก 1-3 ปี ส่วนงบไตรมาส 4/66 คาดมีกำไรปกติ 453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 25% จากช่วงเดียวกัน


SPALI (ปิด 19.70 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 23.50 บาท) ประกาศงบวันนี้ Consensus คาดมีกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 1,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 16% จากช่วงเดียวกัน ซึ่งคาดว่า SPALI จะประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีหลังประมาณ 0.5-0.60 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield 2.5-3%  


ขณะที่ประเด็นสำคัญวันนี้สภาพัฒน์ฯ ประกาศ GDP ไตรมาส 4/66  ดีกว่าที่ ก.การคลังเคยประเมินแต่ต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ สภาพัฒน์ประกาศ GDP ไตรมาส 4/66 ขยายตัว 1.7% ดีขึ้นจากไตรมาส 3/66 ที่ขยายตัว 1.4% แต่น้อยกว่าที่ Consensus  คาดว่าจะขยายตัว  2.5% ส่วนทั้งปี 2566 GDP ขยายตัว 1.9% ชะลอลงจากที่ขยายตัว 2.5% ในปี 2565 ส่วนแนวโน้มปีนี้ สภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์ GDP เหลือขยายตัว 2.2 - 3.2% (ค่ากลาง 2.7%) เทียบกับคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.7-3.7% (ค่ากลาง 3.2%)


ติดตาม ธ.กลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) 1 และ 5 ปี โดยตลาดยังคาดหวังจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม แต่คงมุมมองเดิมคาด ธ.กลางจีนจะคงดอกเบี้ย MLF ทั้ง 1 ปี และ 5 ปีไว้ที่ระดับ 3.45% และ 4.20% ตามเดิม คล้ายกับดอกเบี้ยนโยบาย (MLF) ที่ ธ.กลางจีนตรึงไว้ที่ระดับ 2.5% เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


พรุ่งนี้ FED Minutes คาดกรรมการส่วนใหญ่ยังหนุนคงดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ ซึ่ง FED Minutes ช่วงกลางสัปดาห์คาดคณะกรรมกานส่วนใหญ่จะยังหนุนให้เฟดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ต่อไป เพื่อกดดันให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% อย่างไรก็ตามเรามองประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้อยู่แล้วจึงคาดผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนจะค่อนข้างจำกัด

 

 

 


พญาหงส์