
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รับสัญญาณการเมืองเริ่มชัดเจน – กลุ่มค้าปลีก-สื่อโดดเด่น
วันที่ 3 กันยายน 2568 – ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ปิดตลาดที่ระดับ 1,259.31 จุด เพิ่มขึ้น 10.53 จุด หรือ +0.84% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 45,000 ล้านบาท
หุ้นกลุ่มค้าปลีก-สื่อรับอานิสงส์การเมือง
แรงซื้อหลักในวันนี้มาจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไฟแนนซ์ สื่อ และขนส่ง โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและสื่อมวลชนที่ได้รับ Sentiment เชิงบวกจากความคาดหวังต่อการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
CPALL (+3.30%) และ CPAXT (+5.43%) ปรับตัวขึ้นตามทิศทางการเมืองที่เริ่มมีความชัดเจน
BJC (+6.18%) ฟื้นตัวแรงจากการเป็นหุ้น Laggard ในกลุ่มค้าปลีก
PLANB (+7.69%) และ BEC (+4.72%) ได้แรงหนุนจากบรรยากาศการเมืองที่เอื้อต่อการใช้จ่ายโฆษณา
CBG (+3.83%) และ OSP (+3.64%) เก็งกำไรจากการฟื้นตัวของการบริโภค
WHA (+3.35%) เผยมีลูกค้ารายใหญ่ซื้อที่ดิน 550 ไร่ เตรียมพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่
AMATA (+5.73%) และ AMATAV ขายหุ้นในบริษัทย่อยรวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท
ETC (+30.36%) และ BWG (+26.32%) ขายโรงไฟฟ้าและโรงผลิตเชื้อเพลิง 12 โครงการ มูลค่า 1,100 ล้านบาท เสริมฐานะเงินสด
หุ้นกลุ่มพลังงาน-สื่อสารเผชิญแรงขายทำกำไร
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่ม REITs, ICT และปิโตรเคมีเผชิญแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะหุ้นที่ปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า
BCP (-4.41%) และ TOP (-2.88%) ปรับลดลงหลังรับข่าวโรงกลั่นโลกทยอยซ่อมบำรุง
TRUE (-2.56%), PRM (-2.27%), WHAUP (-2.03%) เผชิญแรงขายจากนักลงทุน
BCPG (-4.09%) ปรับลดลงหลังราคาขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า
การเมืองไทย: ร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภาถูกตีกลับ เหตุขัดข้อกฎหมาย
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจับตามอง โดยล่าสุดร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาที่เสนอโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย ถูกสำนักองคมนตรีตีกลับมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เนื่องจากมีข้อโต้แย้งทางกฎหมายว่า “รัฐบาลรักษาการ” ไม่มีอำนาจในการเสนอร่างดังกล่าว
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถเสนอร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภาเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยได้ ส่งผลให้กระบวนการยุบสภายังไม่สามารถเดินหน้าได้ในขณะนี้
ปิโตรเคมีรับข่าวดีจากญี่ปุ่น เตรียมลดกำลังผลิตเอทิลีน
ตลาดหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีได้รับแรงหนุนจากรายงานของสื่อต่างประเทศที่ระบุว่า 3 บริษัทใหญ่ของญี่ปุ่น ได้แก่ Asahi Kasei, Mitsui Chemicals และ Mitsubishi Chemical กำลังพิจารณาลดกำลังการผลิต Ethylene ภายในปี 2573 ซึ่งจะช่วยคลี่คลายภาวะอุปทานล้นตลาดในระยะกลาง
กำลังผลิตรวมของทั้งสามบริษัทอยู่ที่ 1.1 ล้านตัน/ปี
การปรับลดกำลังผลิตทั่วโลกในช่วง 1–3 ปีข้างหน้าอาจช่วยให้วัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีสิ้นสุดเร็วขึ้น
หุ้นที่น่าจับตา ได้แก่ PTTGC, SCC, IRPC ซึ่งยังซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ของภูมิภาค
DoubleVerify ชี้โฆษณา CTV โตแรง 66% แต่ยังเผชิญความท้าทาย
DoubleVerify (DV) เผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มการโฆษณาบนสตรีมมิงทีวี (Connected TV – CTV) พบว่าในปี 2567 จำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 66% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการเติบโตของสื่อประเภทนี้ในระดับโลก
อย่างไรก็ตาม รายงานยังเตือนถึงความท้าทายสำคัญ ได้แก่
ความโปร่งใสของแอปยังต่ำ โดยมีเพียง 50% ที่เปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน
ปัญหา “การปิดทีวี” ทำให้โฆษณายังคงเล่นแม้หน้าจอจะดับ ส่งผลให้สูญเสียงบประมาณเฉลี่ย 23 ล้านบาทต่อการแสดงผล 1 พันล้านครั้ง
การฉ้อโกงโดยบอต (Bot Fraud) คิดเป็น 65% ของการฉ้อโกงทั้งหมดใน CTV โดยมีอุปกรณ์ที่ถูกควบคุมมากถึง 4 ล้านเครื่อง
ผลสำรวจนักการตลาดทั่วโลกกว่า 2,000 คนยังพบว่า:
72% ระบุว่าโฆษณา CTV ให้ผลลัพธ์ดีกว่าค่าเฉลี่ย
68% ต้องการความโปร่งใสมากขึ้น
63% ยอมรับว่ายังยากที่จะวัดผลการเข้าถึงผู้ชมจริง
54% เพิ่มงบประมาณ CTV ในปีที่ผ่านมา และ 66% มีแผนลงทุนในช่องทางนี้ภายใน 12 เดือน
ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวตามปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด ขณะที่นักลงทุนยังต้องจับตาความคืบหน้าทางการเมืองในประเทศ และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่อและปิโตรเคมีที่อาจส่งผลต่อการลงทุนในระยะถัดไป
ร้อยแปดพันเก้า.."เล่าสู่กันฟัง"