ห้องเม่าปีกเหล็ก

“ไม่ใช่แค่องค์กรที่เลือกคน แต่คนก็เลือกงาน”

โดย มดงาน
เผยแพร่ :
212 views

“ไม่ใช่แค่องค์กรที่เลือกคน แต่คนก็เลือกงาน” องค์กรจะพลิกเกมอย่างไร ให้เนื้อหอมในหมู่คนเก่ง

 

 

ท่ามกลางกระแสข่าวการปลดพนักงานของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น อัลฟาเบท (Alphabet) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), แอมะซอน (Amazon), เมตา (Meta) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook)

อาจทำให้เหล่ามนุษย์เงินเดือน พากันร้อน ๆ หนาว ๆ ว่าสึนามิลูกนี้ จะส่งผลกระทบไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ หรือไม่

แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าไปสำรวจตลาดแรงงานทั่วโลกเวลานี้ กลับพบว่า หนึ่งในความท้าทายขององค์กรในปี 2566 คือ ความยากในการเฟ้นหาคนเก่ง มีฝีมือ มาร่วมทีม และการรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กรไปนาน ๆ

จากผลสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนของบุคลากรในสายงานด้าน AI และดิจิทัล (Artificial Intelligence and Digital Talent Compensation Survey) ของ WTW หนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชันด้านการบริหารคนและองค์กร ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1828 เป็นบริษัทมีฐานข้อมูลครอบคลุมมากที่สุดและเชื่อมโยงกับทุกภูมิภาค โดยอ้างอิง วิเคราะห์ และประมวลผลจากฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ทุกระดับงาน รวมถึงครอบคลุมทั้งมุมมองในระดับสากลและท้องถิ่น พบว่า

มากกว่า 97% ของบริษัทในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กำลังประสบปัญหาในการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถด้านดิจิทัลให้มาร่วมงาน
ขณะที่กว่า 96% ประสบปัญหาในการรักษาบุคลากรที่มีความสามารถด้านดิจิทัล ให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับ AI, ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล เพราะอย่าลืมว่า ยิ่งโลกใบเดิมหมุนเร็วเท่าไร ทักษะของพนักงานที่องค์กรมองหาก็ยิ่งต้องติดสปีดตาม.. โดยเฉพาะบุคลากรในสายงานดิจิทัล ที่กำลังเนื้อหอมสุด ๆ

ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจไหน ต่างต้องการคนที่มีความรู้ด้านดิจิทัล มาช่วยทรานส์ฟอร์มองค์กร ให้พร้อมรับมือกับเทรนด์ของการนำ AI และระบบอัตโนมัติมาใช้ในการทำงาน

คำถามคือ ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจที่ว่าดุเดือดแล้ว ตลาดแรงงานก็เดือดไม่แพ้กัน
องค์กรจะพลิกเกมอย่างไร เพื่อรับมือกับตลาดแรงงานยุคใหม่ ที่ไม่ใช่องค์กรเลือกคน แต่คนก็เลือกงาน

MarketThink จะพาทุกคนไปหาคำตอบจากคุณนราพร อินทเชื้อ ผู้อำนวยการฝ่าย Work & Rewards ประจำประเทศไทยและอินโดไชน่า WTW ประเทศไทย

นาทีนี้ ถ้าถามว่าอาชีพไหน ที่เป็นที่ต้องการในตลาดงานมากที่สุด เวลานี้ ?

จากผลสำรวจจาก 623 บริษัทในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดย WTW ชี้ชัดว่าในปี 2566 งานด้านการขาย, งานด้านวิศวกรรม, งาน IT และช่างเทคนิค คือสายงานหลักที่เป็นที่ต้องการ
แต่ที่น่าสนใจคือ สายงาน IT เป็นสาขาที่ติดอันดับต้น ๆ มาแล้วถึง 3 ปีซ้อน
ส่วนงานที่มาแรงและได้รับค่าตอบแทนสูงสุดคือ งานในสาย Data Science และ Business Intelligence

โดยอาชีพด้านเทคโนโลยี และ Digital Marketing จะเป็นอาชีพที่ติดอันดับดาวรุ่งในปี 2566
เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการนำดิจิทัลมาใช้ในองค์กรมากขึ้น​
ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่า 60% ขององค์กร เชื่อว่าการดึงดูดและรักษาบุคลากรด้านดิจิทัล คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กรเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นดิจิทัลได้อย่างราบรื่นมากที่สุด

เมื่อดีมานด์ในตลาดงาน ที่ต้องการคนสายงานด้านดิจิทัลมีมาก
ก็หมายความว่า คนที่มีทักษะด้านดิจิทัล ก็มีทางเลือกมากขึ้น ในการหาองค์กรที่ถูกใจ

โจทย์ใหญ่จึงกลับมาอยู่ที่องค์กรว่าจะพลิกเกมอย่างไร เพื่อให้องค์กรเนื้อหอม และโดนใจตลาดงาน

หนึ่งในกุญแจดอกสำคัญที่ WTW แนะนำ คือ ถึงเวลาแล้วที่นายจ้างต้องลุกขึ้นมา “คิดใหม่ ทำใหม่”
เพราะในเมื่อทักษะที่องค์กรมองหาจากพนักงานยังเปลี่ยนตามโลก อัตราเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ ที่มอบให้พนักงานก็ต้องเปลี่ยนตาม

แต่ก่อนที่จะลงมือปรับแพ็กเกจเงินเดือนและสวัสดิการได้ WTW มองว่า ต้องอาศัย Data หรือ Insight ในตลาดแรงงาน
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เหมือนเราจะออกสินค้าหรือบริการใหม่ ถ้าจะให้โดนใจลูกค้า
ก็ต้องเริ่มจากการสำรวจตลาด เพื่อหา Insight หรือ Pain Point ในตลาดให้เจอก่อน

ในการดึงดูดและรักษาคนเก่งก็เช่นกัน หากจะปรับเปลี่ยนรูปแบบสวัสดิการขององค์กรให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดแรงงาน ก็ต้องอาศัยข้อมูลด้านเงินเดือน และสวัสดิการในตลาดแรงงาน จากฐานข้อมูลที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้มาใช้เป็นตัวช่วยกำหนด
ซึ่งเงินเดือนหรือสวัสดิการที่คิดออกมา อาจจะไม่ได้เป็นแบบสูตรสำเร็จกับพนักงานทุกคนก็ได้
แต่อาจจะเลือก Tailor-Made ให้เหมาะกับพนักงานแต่ละสายงาน หรือแต่ละกลุ่ม
เช่น ถ้าอยากดึงดูดคนเก่ง ลำพัง “เงินเดือน” หรือ “ชื่อเสียงขององค์กร” ก็อาจจะมีอานุภาพไม่พอ
เพราะสิ่งที่คนมีฝีมือมองหา อาจจะรวมไปถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ความน่าสนใจของสินค้าหรือบริการขององค์กร
หรือบางคนอาจมองไปถึงโอกาสและทักษะใหม่ ๆ ที่จะได้จากการทำงาน
เช่น โอกาสที่จะได้สร้างผลงานในองค์กร,​ โอกาสที่จะได้พัฒนาศักยภาพกับหลักสูตรชั้นนำ/หน่วยงานชั้นนำ, เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น/กำหนดเองได้, สิทธิในการซื้อหุ้น (Stock Option) รวมถึงโอกาสทำงานในต่างประเทศ เป็นต้น

นอกจากองค์กรจะต้องเปิดเกมรุกเพื่อดึงดูดพนักงานใหม่ ก็ต้องไม่ลืมทำเกมรับให้แข็งแกร่ง

จากผลสำรวจของ WTW พบว่า กลุ่มงานสายดิจิทัลของบริษัทในประเทศไทย มักสูญเสียบุคลากรไป เนื่องจากการแข่งขันแย่งชิงตัวในตลาด

รู้หรือไม่ว่า ยิ่งสายงานดิจิทัลเนื้อหอมมากเท่าไร โอกาสที่คนในสายงานนี้ จะปันใจไปทำงานในที่ที่มองเห็นศักยภาพของเขามากกว่าก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

เห็นได้จาก อัตราการลาออก (Turnover Rate) ของคนทำงานด้านดิจิทัล ที่ครองแชมป์ตำแหน่งงานที่มีการลาออกมากที่สุด

มีอัตราการลาออกที่มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปถึง 9% หรือคิดเป็นเกือบ 20%
โดยเฉพาะงานด้าน IT Developer, Digital Marketing และ Online Community Marketing
โดยเหตุผลหลักคือ องค์กรไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรได้

ดังนั้น สำหรับองค์กรที่อยากรักษาพนักงานเก่าที่มีฝีมือ ให้อยู่กับองค์กรได้นานอาจจะต้องกลับมาทบทวนว่า ได้ปูทางเส้นทางการเติบโต และการเลื่อนตำแหน่งที่ชัดเจน ไว้รองรับบุคลากรในส่วนนี้หรือไม่
หรือได้มอบโอกาสการทำงานที่มีความน่าสนใจ ท้าทาย และหลากหลาย พร้อมเงินเดือนที่เป็นที่น่าพอใจ และโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ให้บุคลากรในส่วนนี้หรือยัง

ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลว่า ทำไมองค์กรที่อยากพลิกเกมรับมือกับตลาดแรงงานที่ท้าทายให้ได้ ต้องกลับมาคิดใหม่ ทำใหม่

เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง
ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งงาน

เพราะยิ่งองค์กรไหน มีข้อเสนอและสวัสดิการที่ตรงใจและแตกต่างจากคู่แข่งได้มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นแต้มต่อ ทำให้ผู้สมัครรู้สึกว่าองค์กรนั้น เห็นถึงศักยภาพและคุณค่าของพวกเขา และอยากมาร่วมงานด้วยนั่นเอง..

 

 


มดงาน