จับตาเศรษฐกิจจีน !!!

: จับตาเศรษฐกิจจีน !!! ล่าสุดพบว่าเริ่มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนนี้ แม้มีวิกฤตอสังหาฯ ขณะที่ Alibaba ถอนผู้บริหาร Ant Group ออกจากการถือหุ้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของการปรับโครงสร้างตามแผนระยะยาวของรัฐบาลปักกิ่ง จับตาปีนี้จีนจะทำ GDP ได้ +5.5% ตามเป้าหรือไม่ ? ในขณะที่นักวิเคราะห์ตะวันตกส่วนใหญ่มองว่าไม่ถึงแน่ ๆ เพราะอสังหาฯ มีส่วนถึง 25% ของ GDP !

 

 

 

 

.

ยังไงกันดีล่ะครับท่าน ?? สำหรับเศรษฐกิจจีนในช่วงที่เหลือของปีนี้และค่าเฉลี่ยตลอดทั้งปีนั้น ตอนนี้กำลังถูกจับตามองจากทั่วโลกเลยทีเดียว ! เพราะใครที่ติดตามข่าวสารด้านการเงินและเศรษฐกิจมาโดยตลอด ก็จะรู้ดีว่าทางนักวิเคราะห์ฝั่งตะวันตกเกือบทั้งหมดนั้นมองว่า GDP ของจีนจะขยายตัวราว 1.5-3.5% เท่านั้นภายในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย +5.5% ของรัฐบาลอย่างมาก

.

โดยนักวิเคราะห์ฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่มองว่าวิกฤตสภาพคล่องที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาฯ ของจีนจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันเศรษฐกิจของจีนอย่างมากตลอดปีนี้ เนื่งอจากภาคอสังหาฯ นั้นมีส่วนถึ่งประมาณ 1 ใน 4 หรือ 25% ของตะกร้า GDP ของจีนเลยทีเดียว

.

อย่างไรก็ตาม หลังจากช่วงครึ่งปีแรกที่ค่อนข้างดูซบเซานั้น รายงานจาก Bloomberg ล่าสุดระบุว่าเศรษฐกิจของจีนในเดือน ก.ค. นี้กำลัง 'ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง' ในขณะที่ความเชื่อมั่นก็ฟื้นตัวดีขึ้นด้วยแม้ว่าจะยังมีการหยุดชะงักจากมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดเป็นระยะ ๆ และยังวิกฤตสภาพคล่องในอสังหาฯ ก็ยังไม่คลี่คลายดีนัก

.

ตัวติดตามตามเศรษฐกิจของ Bloomberg ระบุว่านับตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. มานี้ มาตรวัดโดยรวมของจีนอยู่ที่ระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเร่งตัวขึ้น (ขยายตัว) และความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวดีขึ้นจากความคาดหวังเปิดเมืองและการสนับสนุนตลาดของรัฐบาล โดยเฉพาะภาคสินเชื่อและอสังหาฯ

.

ตอนนี้ศนูย์กลางของการระบาดได้ย้ายไปยังเมืองอื่นแทน ในขณะที่เมืองหลัก ๆ อย่างเซี่ยงไฮ้และจังหวัดใกล้เคียงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำ แต่ไปเพิ่มขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ รวมถึงเซินเจิ้น แต่โดยรวมแล้วกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ดีกว่าช่วงก่อนหน้านี้อย่างมีนัยสำคัญ

.

สำหรับภาคอสังหาฯ ของจีนนั้น ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าตลาดได้ผ่านจุด Bottom ไปแล้วหรือยัง ? ในขณะที่ยอดขายบ้านยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนนี้ในเมือง 4 อันดับแรกของจีน ทำให้โดยรวมแล้วภาคอสังหาฯ ของจีนอยู่ในภาวะวิกฤตมาราว 1 ปีเต็ม

.

ราคาบ้านในจีนร่วงลงตามอารมณ์ของตลาด และยังมีการผิดนัดให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ขณะทีสื่อหลายแห่งรายงานว่าผู้คนจำนวนมากขึ้นกำลังไม่พอใจและปฏิเสธที่จะจ่ายเงินจำนองในโครงการที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ส่วนรัฐบาลจีนตอนนี้กำลังเข้ามาจัดการกำกับดูแลทุกอย่าง รวมถึงการปล่อยสภาพคล่องผ่านสินเชื่อด้วย

.

ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมเช่นกัน โดยเฉพาะการค้าเหล็กและการผลิตโลหะต่าง ๆ ที่ใช้สร้างบ้าน ซึ่งทำให้ราคาแร่เหล็กร่วงลงอีกในเดือนนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดรถยนต์ของจีนกำลังฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากการผ่อนคลายข้อจำกัดโควิด และรัฐบาลเองก็ผลักดันยอดขายโดยออกมาตรการต่าง ๆ มาหนุนตลาด ยกตัวอย่างเช่นการปรับลดภาษีรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษต่ำ โดยเฉพาะ EV CAR

.

ภาค Demand เองก็มีแนวโน้มจะฟื้นตัวเช่นกันในเดือน มิ.ย. นี้ ในขณะที่การส่งออกของเกาหลีใต้ซึ่งเป็น 1 ในมาตรวัดการค้าที่สำคัญของโลกก็ดีดตัวขึ้น 14.5% ในช่วง 20 วันแรกของเดือนนี้ ถือเป็นเรื่องน่าแปลกเล็กน้อยท่ามกลางความกังวลเรื่อง Recession

.

แต่ถึงกระนั้น Demand ในภาคนำเข้าของจีนยังคงชะลอตัวและได้รับผลกระทบจากการ Lockdown อย่างเข้มงวดในช่วงไตรมาส 2 แม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะเริ่มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งแล้วก็ตาม แต่การนำเข้านั้นอาจต้องรออีกสักระยะ

.

ทั้งหมดทั้งมวลของการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ค่อนข้างระมัดระวัง ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจีนจะเดินหน้าหนุนเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ในส่วนที่ทำได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีการตรวจสอบและควบคุมความเสี่ยงอย่างเข้มงวดไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะการที่จีนประกาศไว้อย่างชัดเจนว่า 'จะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่แต่แค่พอเหมาะเท่านั้น จะไม่มากเกินไปเด็ดขาด'

.

ความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมที่น่าสนใจคือล่าสุดทาง Alibaba ได้ถอดผู้บริหารของ Ant Group ออกจากการถือหุ้นของบริษัท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ตามที่รัฐบาลจีนวางแผนความมั่นคงทางเทคโนโลยีและการเงินในระยะยาวเอาไว้

.

Alibaba ให้เหตุผลว่าผู้ที่จะถือหุ้น Alibaba ในระดับสูงได้ ต้องเป็นบุคคลในบริษัทเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่ปัญหาอื่นใด แต่เป็นเรื่องของการยกระดับการกำกับดูแลเพื่อเตรียมอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ โดยทาง World Maker เรามองว่า Fintech เหล่านี้ของจีนจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวเชื่อมระหว่าง Digital Yuan กับผู้บริโภค

.

ทางบริษัทกล่าวอีกว่ามุ่งหมายที่จะจดทะเบียนหลักในตลาดฮ่องกง และอาจมีการอนุญาติให้รวมอยู่ในลิ้งเชื่อมต่อกับตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นด้วย

.

ส่วนเรื่องการ IPO ของ Ant Group นั้น ล่าสุดมีข่าวแว่ว ๆ ออกมาว่าตอนนี้กำลังหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลของจีนอยู่ รวมถึงบริษัทอีกหลายแห่ง แต่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าจะต้องทำอะไรอีกบ้างก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าจดทะเบียนในตลาดของจีนได้