S กางแผนปี 66 บุกตลาดแนวราบเต็มสูบ
ผุด 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท

.
S คาดปี 66 ธุรกิจพัฒนาที่พักอาศัยโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังบุกโครงการแนวราบมากขึ้น ตั้งเป้าปีนี้เปิด 6 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว “ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส” โครงการใหม่ระดับ Super Luxury มูลค่า 2,900 ล้านบาท เผยมียอดจองแล้ว 95%
.
นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า คาดแนวโน้มธุรกิจพัฒนาที่พักอาศัยจะเติบโตกว่าปี 2562 ที่มีรายได้จากการขายบ้านและอาคารชุด 7,385 ล้านบาท เนื่องจากในปีดังกล่าวบริษัทยังไม่มีการพัฒนาโครงการแนวราบ แต่ปีนี้ได้มีการพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
.
โดยปี 2566 ตั้งเป้าเปิดโครงการแนวราบทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เน้นเจาะกลุ่ม Luxury ซึ่งจะเป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขายเป็นหลัก โดยปีนี้บริษัทจะขยายโครงการไปยังเซ็กเม้นท์ใหม่ๆ ที่ระดับ 10-20 ล้านบาท ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก, โซนกรุงเทพฯ ตะวันตก และโซน CBD
.
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวเปิดโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32 บ้านแนวราบระดับ Super Luxury มูลค่า 2,900 ล้านบาท อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดมียอดจองไปแล้ว 95% รวมถึงยอดโอนในปีที่แล้วกว่า 830 ล้านบาท
.
นอกจากนี้บริษัทยังได้พัฒนาโครงการโฮมออฟฟิศ 3 ชั้นครึ่ง ภายใต้ชื่อ SENTRE ขนาดที่ดินเริ่มต้น 42 ตรว. พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 347 ตรม.จอดรถได้ถึง 4 คัน สามารถปรับเปลี่ยน Function ให้ตอบโจทย์การทำธุรกิจบนทำเลใจกลางเมือง ถ.พัฒนาการ 32 ราคาเริ่มต้น 21.9 ล้านบาท
.
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม ปีนี้บริษัทจะไม่มีการพัฒนาโครงการใหม่ โดยปัจจุบันเหลือโครงการที่เปิดขายทั้งหมด 2 โครงการ ได้แก่ THE ESSE Sukhumvit 36 เหลือสต๊อกขายประมาณ 20% และ THE EXTRO Phayathai-Rangnam เหลือสต๊อกขายราว 35%
.
ทั้งนี้เนื่องจากปี 2566 บริษัทจะไม่มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ทำให้สัดส่วนรายได้จากแนวราบจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 70% จากเดิมที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากโครงการคอนโดมิเนียม ขณะที่ปีถัดไปนั้นสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมจะขยับขึ้นมาหรือไม่นั้น ต้องรอประเมินสถานการณ์ตลาดอีกครั้ง
.
“ตลาดระดับ Luxury ยังสามารถเติบโตได้ ในขณะที่ตลาดล่างปัจจัยที่เอื้อต่อการขายลดลง ทั้ง แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น มาตรการสนับสนุนจากรัฐที่ลดลง และธนาคารยังมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ” นายณัฐวุฒิ กล่าว