ห้องเม่าปีกเหล็ก

คิดเป็น เห็นก่อน

โดย ชัจจ์ปัณฑ์
เผยแพร่ :
70 views

ทดสอบ 1,850 จุดได้..แต่ยังไม่ผ่าน

หลังการแถลงของประธาน Fed คนใหม่ นายเจอโรม พาวเวลล์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกิดความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ และปรับตัวลดลง ทำบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเสียหมด จากที่กำลังคึกหลัง นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงหลังการประชุม ครม. ว่าจะมีการกำหนดวันเลือกตั้งซึ่งจะไม่เกินไปกว่า ก.พ.62  ซึ่งเรื่องการยืนยันการเลือกตั้งไม่เกิน ก.พ.62 นั้น ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดกระแสความเชื่อมั่นเป็นปัจจัยบวกหนุน ดัชนีขึ้นไปทดสอบ 1,850 จุดให้เห็นกันแล้ว ซึ่งประเด็นนี้ตลาดเคยตอบรับเชิงบวก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งดัชนีพุ่งทะลุ 1,800 จุดขึ้นมาเป็นครั้งแรก หากจำกันได้

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลกระทบเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะเป็นแค่ระยะสั้น ไม่นานตลาดก็ปรับตัวมีแรงซื้อกลับเข้ามาดันตลาดไปต่อ แต่ก็ไม่แปลกที่จะเกิดแรงขายล็อกทำกำไรกันไว้ก่อน เพื่อรอตลาดปรับตัว ส่วนลักษณะการเคลื่อนไหวของตลาดก็ยังเลือกเล่นในหุ้นขนาดใหญ่ นำโดยกลุ่มพลังงานตระกูล ปตท. บริษัทจดทะเบียนที่งบฯ ออกมาดี รวมถึงกลุ่มที่ได้อานิสงค์การเติบโตจากเศรษฐกิจภายในประเทศก็จะตอบรับเชิงบวกเช่นกัน

ดังนั้น การลงทุนที่ดีต้องมีสติในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะดีจะร้ายอย่างไร ในตลาดดีก็อย่าบุ่มบ่ามย่ามใจหลงระเริงไปกับภาพที่เกิดขึ้นยิ่งสูงยิ่งหนาว ที่สำคัญยิ่งในตลาดที่ดูแย่ดูไม่ดียิ่งต้องมีสติ มีสมาธิ นิ่งพิจารณามองหาโอกาส ซึ่งในตลาดหุ้นที่ผ่านมาโอกาสมักจะมาให้นักลงทุนได้แสวงหากันก็ในช่วงตลาดดูไม่ดีนี่ล่ะครับ สำหรับผู้ที่มองเห็นและสามารถคว้าโอกาสได้เท่านั้นที่จะสามารถสร้างความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้นการลงทุนที่ดีเราต้องอยู่ในภาวะที่เตรียมพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ สามารถเอาตัวรอดและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากตลาดเอาไว้ให้ได้

สำหรับการลงทุนในช่วงจังหวะเวลานี้นั้น หากเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีแข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานยังคงเติบโตดี และมีผลตอบแทนคืนกลับในรูปของเงินปันผลก็ยังน่าสนใจ เพราะเรามีโอกาสที่จะได้รับส่วนต่างของราคาที่จะปรับขึ้นจากปัจจุบันที่ราคาอยู่ในระดับต่ำรวมถึงเงินปันผลตอบแทนด้วย ที่สำคัญหุ้นเหล่านี้มักจะเป็นหุ้นที่นักลงทุนกลุ่มต่างๆอย่างนักลงทุนต่างชาติกับนักลงทุนประเภทสถาบันกองทุนให้ความสนใจอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าจะมีการขายกันออกมาบ้างจากนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว แต่ก็เป็นไปตามสภาวะของตลาดในขณะนั้นๆมากกว่าจะเทขายหุ้นทิ้งไปเลย หากพื้นฐานของหุ้นไม่ได้เปลี่ยนไปในด้านไม่ดี และหุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหุ้นที่ส่งผลต่อทิศทางแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวมอยู่เสมอ คือหากมีการเข้าซื้อก็จะผลักดันให้ตลาดเดินหน้า แต่ถ้าเทขายก็ทำให้ตลาดทรุดย่อลงได้เช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วราคาจะปรับเข้าสู่สมดุลพื้นฐานของหุ้นที่ควรจะเป็น ซึ่งตอนนี้ก็ดูได้จากผลประกอบการที่ประกาศกันออกมา

ส่วนในหุ้นที่มีการเก็งกำไรกันค่อนข้างสูง ต้องบอกว่าในภาวะตลาดเช่นนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับนักลงทุนที่ยังขาดประสบการณ์และนักลงทุนที่ขาดความรู้ ขาดสติ จิตใจไม่มั่นคง เข้าไปร่วมเล่นหุ้นเก็งกำไรกันอย่างเมามัน ในจำนวนผู้นิยมเล่นเก็งกำไรนั้นจะมีสักกี่คนที่รู้จัก เข้าถึงรู้ลึกรู้จริงในหุ้นตัวนั้น ส่วนใหญ่มักจะเข้าไปเล่นกันตามกระแสข่าวบ้าง เพื่อนบอกบ้าง ใครไม่รู้บอกบ้าง ตลอดจนจินตนาการคิดไปเองว่าหลังจากซื้อแล้วหุ้นจะขึ้นและได้กำไรมากมาย โดยปราศจากการประเมินรู้อย่างแท้จริงบนเหตุผลที่รองรับได้ ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่จะเสียหายต่อการลงทุนอย่างมาก ต้องไม่ลืมว่าเงินในกระเป๋าของเราเป็นเงินจริงเสียจริงหมดได้จริงหากเราเลือกลงทุนผิด เพราะฉะนั้นการตัดสินใจลงทุนทุกครั้งต้องลงทุนด้วยความมีสติ รอบคอบเพื่อลดความเสี่ยงเพิ่มความสำเร็จ

สุดท้ายการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยามนี้หากมีหุ้นอยู่แล้วและเป็นหุ้นดีแข็งแกร่งที่เราประเมินรู้มูลค่าในอนาคตได้อย่างแน่ชัดแล้ว ก็เพียงถืออดทนรอคอยเพื่อไปสู่เป้าหมาย  ส่วนที่มีเงินแล้วอยากลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้สูงก็ให้เลือกลงทุนในหุ้นที่เราประเมินรู้ ได้อย่างแท้จริงลงทุน แต่ต้องสร้างกรอบการลงทุนให้ชัดเจนเล่น หากจะเล่นรอบขึ้นขายลงซื้อ ก็อย่าให้อารมณ์ความโลภ อาการจิตตกมาบดบังต่อการลงทุน....


ชัจจ์ปัณฑ์