สหรัฐฯเตรียมพูดคุยกับจีนแบบซึ่งหน้าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยิงบอลลูนสอดแนมตก

สหรัฐฯเตรียมพูดคุยกับจีนแบบซึ่งหน้าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยิงบอลลูนสอดแนมตก

1.รัฐมนตรีต่างประเทศ Antony Blinken กำลังพิจารณาที่จะพบกับ Wang Yi นักการทูตชั้นนำของจีนระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการพูดคุยแบบเห็นหน้ากันครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่เกิดความวุ่นวายเรื่องบอลลูนของจีน

ทั้งนี้ข่าวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่สหรัฐฯพยายามลดคำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ โดยระบุว่าบอลลูนสอดแนมที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นของจีน (ซึ่งเป็นวัตถุชิ้นแรกใน 4 ชิ้นที่สหรัฐฯ ยิงตก) มีประโยชน์เพียงเล็กน้อยต่อโครงการสอดแนมของปักกิ่ง

ขณะที่ความพยายามในการกู้บอลลูนและซากวัตถุอื่นๆอีก 3 ชิ้นยังคงดำเนินอยู่ ในขณะเดียวกัน จีนก็กล่าวหาว่าสหรัฐฯได้ส่งบอลลูนมากกว่า 10 ลูกเหนือดินแดนของตนตั้งแต่ต้นปี 2022

2.การตอบรับอย่างน่าประหลาดใจของ Kazuo Ueda สำหรับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญกับความคาดหวังของตลาดอีกครั้งสำหรับนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นในปีนี้

ทั้งนี้การเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯคาดว่าจะประกาศในวันนี้ โดยผู้ค้าตราสารหนี้กำลังเดิมพันกับการปรับนโยบาย yield curve control ว่าน่าจะเกิดขึ้นเร็วขึ้น รวมถึงคาดว่ายุคอัตราดอกเบี้ยติดลบจะสิ้นสุดประมาณกลางปีนี้ ส่วนนักลงทุนในตลาดหุ้นก็คาดว่าจะได้เห็นการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเช่นกัน

3.ตลาดหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวในเอเชียหลังการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในวันนี้ว่าอาจจะไม่เลวร้ายอย่างเคยกลัวกันก่อนหน้านี้

ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นพุ่งขึ้นในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง ขณะที่ดัชนีหุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ หลังดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 1.1% และ Nasdaq100 พุ่งขึ้น 1.6%

อย่างไรก็ตาม มันอาจจะไม่ใช่เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยทาง Marko Kolanovic ของ JPMorgan เรียกร้องให้นักลงทุนทิ้งหุ้นเพื่อมาซื้อพันธบัตร ในขณะที่ Michael Wilson ของ Morgan Stanley แย้งว่าหุ้นสหรัฐฯกำลังสุกงอมสำหรับการถูกเทขาย

4.  3 ปีหลังเกิดโรคระบาด ผู้นำธุรกิจและเจ้าหน้าที่ของเมืองทั่วโลกยังคงพยายามทำทุกอย่างเพื่อหลอกล่อให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศและฟื้นฟูเศรษฐกิจในท้องถิ่น

ยกตัวอย่างเช่นในนิวยอร์ก ในขณะที่พนักงานจำนวนมากเลือกที่จะใช้เวลาในวันจันทร์และวันศุกร์ทำงานที่บ้านของตนเองอย่างสะดวกสบาย ร้านอาหารและร้านค้าปลีกกำลังประสบกับการสูญเสียรายได้ครั้งใหญ่ พื้นที่ว่างในออฟฟิศเพิ่มขึ้น และการเงินของกลุ่มขนส่งสาธารณะอยู่ในภาวะตกต่ำ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะในศูนย์การเงินตั้งแต่ลอนดอนถึงโตเกียว

Source: Bloomberg