สรุปงบ 1Q23 หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว
กำไรปกติลดลง QoQ จากการเป็นช่วงโลว์ซีซั่นในยุโรป กำไรปกติรวมไตรมาส 1/2566 ของหุ้นโรงแรม 7 แห่งที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเราอยู่ที่ 809 ลบ. ลดลง 77% QoQ แต่พลิกจากผลขาดทุนปกติที่ 4.7 พันลบ. ในไตรมาส 1/2565 กำไรปกติที่ลดลงเชิง QoQ มาจากผลขาดทุนของ MINT จำนวน 647 ลบ. ซึ่งพลิกจากกำไรปกติที่ 2.4 พันลบ. ในไตรมาส 4/2565 เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นในยุโรป
หากไม่รวม MINT กำไรปกติรวมไตรมาส 1/2566 ของกลุ่มโรงแรมอยู่ที่ 1.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 22% QoQ พลิกจากผลขาดทุนปกติที่ 1.1 พันลบ. ในไตรมาส 1/2565 และสูงกว่าไตรมาส 1/2562 อยู่ 21% จากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรมในประเทศหลังการระบาดของโควิด-19
RevPar เฉลี่ยเกือบแตะระดับไตรมาส 1/2562 อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ของกลุ่มโรงแรมอยู่ที่ 3,141 บาท เพิ่มขึ้น 13% QoQ และ 143% YoY ต่ำกว่าไตรมาส 1/2562 เพียง 1.4% ขณะที่หุ้นโรงแรม 7 แห่งที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเรารายงานอัตราการเข้าพัก (OCR) เฉลี่ยไตรมาส 1/2566 ที่ 69.3% (+5.9 ppts QoQ และ +35.4 ppts YoY) สูงกว่าไตรมาส 1/2562 อยู่ 1.6 ppts ขณะที่อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) อยู่ที่ 4,567 บาท เพิ่มขึ้น 11% QoQ และ 40% YoY สูงกว่าไตรมาส 1/2562 อยู่ 17%
คาดนักท่องเที่ยวจีนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ถึง upside หรือ downside ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าปี 2566 ที่ 27.4 ล้านคน
มุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงแรม แต่เปลี่ยนความชอบของเราจากโรงแรมในประเทศเป็นโรงแรมในต่างประเทศ เนื่องจากเราคาดว่าจะเห็นโมเมนตัมเชิงบวกจากช่วงไฮซีซั่นของโรงแรมในยุโรปในไตรมาส 2 หุ้นเด่นของเรา คือ MINT
