ห้องเม่าปีกเหล็ก

ทางออกของธนาคารไทยในยุค Disruption อยู่ที่ตรงไหน?

โดย Sunnyday
เผยแพร่ :
68 views

ทางออกของธนาคารไทยในยุค Disruption อยู่ที่ตรงไหน?

ธนาคารไทย รายงานผลประกอบการประจำปี 2562 ออกมาทั้งหมดแล้ว ภาพรวมที่น่าสนใจคือกำไรสุทธิที่ออกมาเติบโตลดลงเกือบทุกธนาคาร รายที่มีกำไรเติบโตก็มาจากกำไรจากการขายกิจการไม่ได้มาจากธุรกิจหลัก รวมๆแล้วกำไรสุทธิของอุตสาหกรรมธนาคารไทยในปีที่ผ่านมาเติบโตเพียงแค่ 3.89% เท่านั้น

หากมองไปที่กราฟราคาหุ้นกลุ่มธนาคารต้องบอกว่าเป็นขาลงแทบทั้งหมด ผลมาจากนักลงทุนกังวลปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่จะกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นอัตราหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตราการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กดดันกำลังซื้อของคนผ่อนซื้อที่อยู่อาศัย แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Spread) แคบลง กดดันไปยังอัตราการทำกำไร

แต่อีกปัจจัยเสี่ยงของหุ้นกลุ่มธนาคารนั่นคือ Technology Disruption ที่เข้ามาทำให้ธุรกิจนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารไทยโดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ได้ลดจำนวนสาขาลงอย่างต่อเนื่องและหันมาเพิ่มธุรกรรมการเงินบนออนไลน์แทน ซึ่งตัวเลขธุรกรรมออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น 5 ปีติดต่อกันได้แสดงให้เห็นแล้วว่าแนวโน้มของสังคมไร้เงินสดกำลังเข้ามาใกล้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาได้มีธนาคารไทยขนาดใหญ่บางแห่งได้เริ่มกลยุทธ์ใหม่นั่นคือการ “เทคโอเวอร์” ธนาคารในต่างแดน ล่าสุดธนาคารกรุงเทพได้เข้าเทคโอเวอร์ธนาคารในประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกสิกรไทย ได้มีกระแสข่าวถึงการเข้าไปลงทุนในธนาคารพาณิชย์ในประเทศเมียนมาร์

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การเทคโอเวอร์ธนาคารต่างชาติเพื่อขยายกิจการและสินทรัพย์อาจจะเป็นวิธีการที่ใช้ไม่ได้ในยุคปัจจุบันแล้ว ในระยะสั้นอาจจะได้สินทรัพย์และสิทธิการทำตลาดในประเทศนั้นๆในทันที โดยไม่ต้องขอใบอนุญาต แต่ระยะกลางและระยะยาวอาจไม่ใช่ทางออกของการหนี Disruption

เนื่องจากตอนนี้ธุรกิจการเงินไม่ได้มีพรมแดนทางภูมิศาสตร์อีกต่อไปรวมถึงพรมแดนในเรื่องของการกำกับดูแลเนื่องจากเทคโนโลยีได้เข้ามาทะลายกรอบดังกล่าวไปแล้ว ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง ได้เปิดให้ผู้สนใจมายื่นขอใบอนุญาตการเป็นธนาคารออนไลน์เต็มรูปแบบหรือ Virtual Banking โดยมีเพียงแค่สาขาต้นแบบไม่กี่สาขาเท่านั้นก็สามารถให้บริการได้ทั่วโลก

นี่คือการปรับตัวรับต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ทำธุรกรรมบนออนไลน์มากขึ้น ที่น่าสนใจคือผู้ที่มายื่นขอไลเซ่นส์ Virtual Banking กลับไม่ใช่ผู้ประกอบการธุรกิจธนาคารแต่เป็นฟินเทคขนาดใหญ่ อย่างเช่น Ant Financial ของ Alibaba Group

แม้ ธนาคารไทย ที่ไปเทคโอเวอร์ธนาคารต่างชาติอาจจะได้ทำตลาดกลุ่มลูกค้ารายใหญ่หรือเอสเอ็มอีที่อาจจะยังไม่จำเป็นต้องพึ่งพาธุรกรรมบนออนไลน์เหมือนกับลูกค้ารายย่อย แต่ปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Crowd Funding หรือแม้แต่การระดมทุนด้วยวิธีการ ICO และ STO

การเทคโอเวอร์หรือร่วมทุนกับธนาคารในต่างประเทศจึงเป็นทางออกหนึ่งของการขยายธุรกิจใหม่เท่านั้นแต่สิ่งที่สำคัญคือจะต้องเพิ่มศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีเพื่อที่จะแข่งขันต่อได้ในยุค Disruption ด้วย

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


Sunnyday