ตลาดหุ้นมีอยู่เพื่อสร้างความมั่งคั่งและความรํ่ารวยให้กับคุณ ถ้าคุณรู้ตัวว่ากําลังทําอะไรอยู่ แต่ถ้าคุณไม่รู้ว่ากําลังทําอะไรในตลาดหุ้น มันจะไม่ลังเลที่จะทําให้คุณกลายเป็นคนจน เมื่อความไม่รู้ ( หรือความโง่ ) บวกกับความโลภ นั่นคือปัจจัยที่ทําให้เกิดหายนะทางการเงิน ในปี ค.ศ 1969 คือจุดสูงสุดของตลาดกระทิงในทศวรรษที่ 1960 วอเร็นคิดว่า ราคาหุ้นในตลาดหุ้นนั้นสูงเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก เขาจึงหันหลังให้ตลาดหุ้น เมื่อถึงปี ค.ศ 1973 - 1974 ตลาดหุ้นพลิกกลับโดยสิ้นเชิง ตลาดหุ้นตกลงอย่างหนัก และหุ้นก็ถูกเสนอขายในราคาแสนถูก วอเร็นซื้อหุ้นเหล่านั้นอย่างหิวกระหายและยังพูดแบบติดตลกด้วยว่า เขาเหมือนกับ " ชายหนุ่มกลัดมันซึ่งอยู่ในฮาเล็มที่เต็มไปด้วยสาวๆแสนสวย " และเหล่าสาวๆแสนสวยนี่เองคือผู้ที่ทําให้เขากลายเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน
หลังจากที่วอเร็นหันหลังและเดินหนีออกจากตลาดหุ้นใน ปี ค.ศ 1969 นักลงทุนที่ยังคงอยู่ในตลาดหุ้นและยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นกําลังทําอะไรอยู่ นักลงทุนเหล่านั้นจํานวนมากขาดทุนอย่างมหาศาลจนกระทั่งไม่เหลือเสื้อผ้าที่จะใส่ หลังจากที่ตลาดหุ้นตกลงอย่างหนักในปี ค.ศ 1973 - 1974 และการที่พวกเขาเหล่านั้นจะฟื้นตัวกลับมาได้ แทบจะเป็นไปไม่ใด้เลย
ในเมื่อคุณจะต้องใช้เงินในการซื้อหุ้น มันจะช่วยคุณได้อย่างมาก ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณกําลังทําอะไรในตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นนั้นเหมือนกับพระเจ้าตรงที่จะช่วยเฉพาะคนที่รู้จักช่วยตัวเองก่อน แต่สิ่งที่ตลาดหุ้นไม่เหมือนพระเจ้าคือตลาดหุ้นจะไม่ให้อภัยกับคนที่ไม่รู้ตัวว่ากําลังทํ่อะไรอยู่
หมายเหตุ : จากหนังสือ วิถีเต๋า วิถีบัฟเฟตต์ ( The TAO of Warren Buffett ) แต่งโดย Marry Buffett และ David Clark แปลโดย เอกสิทธิ์ หัสสรังสี