CK บ.ลูกช่วยชีวิต ดันกำไร Q3 ไปถึงปี 64 เพิ่มขึ้นเกือบ 100%
CK หรือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างมาก แม้ที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากการเลื่อนประมูลโครงการใหม่และชะลอการก่อสร้างบางโครงการออกไป ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ปรับตัวลงสูงถึง 93.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่นักวิเคราะห์หลายสำนักยังให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า กำไรของ CK มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทลูก
โดยบริษัทลูกที่ CK เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่นั้น ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ถือหุ้นในสัดส่วน 31.32% และ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ถือหุ้นในสัดส่วน 31.90% ซึ่งทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มจะเติบโตสูงในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น CK ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ย่อมได้รับผลดีเช่นเดียวกัน โดย บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาดผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของ CK จะพลิกฟื้นกลับมา จากผลประกอบการของบริษัทลูกที่เริ่มฟื้นตัว เช่น BEM ที่จำนวนผู้ใช้บริการจากทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดินเริ่มกลับมาแล้ว หลังจากรัฐบาลเริ่มปลดล็อกดาวน์ และผลประกอบการของ CKP ที่คาดว่าจะดีขึ้นตามปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังได้รับเงินปันผลจาก บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW อีกราว 200 ล้านบาทด้วย
บ.ลูกดันกำไร Q3 ถึงปี 64 เพิ่มขึ้นเกือบ 100%
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ระบุว่า คาดกำไรปี 64 ของ CK จะฟื้นตัวแรงเป็น 1,270 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 100% จากปีนี้ จากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทลูก ไม่ว่าจะเป็น CKP ที่ consensus คาดการณ์ว่าจะเห็นกำไรที่เพิ่มขึ้นจากปีนี้ เพราะภาวะแล้งในครึ่งแรกของปี 63 ไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกในปีหน้า นอกจากนี้ ยังมี BEM ที่เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาจจำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนเฉลี่ยต่อวันกลับมาอยู่ที่ 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน หรือราว 92% ของตัวเลขในเดือน ก.ค. 62 และจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 2.5 แสนเที่ยวต่อวัน หรือราว 80% ของตัวเลขในเดือน ก.ค. 2019 ซึ่งมองว่าทิศทางการฟื้นตัวของจำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนและรถไฟฟ้าดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าตัวเลขรายเดือนของทั้งสองธุรกิจน่าจะกลับมายืนเหนือกว่าระดับก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 ได้ภายในสิ้นปี 63
แม้โครงการประมูลต่างๆ ยังเดินหน้าต่อ แค่คาดว่าจะล่าช้ากว่าที่คาด โดยโครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก คาดจะประกาศผู้ชนะได้ในสิ้นปี ส่วนการขายซองประมูลโครงการใหญ่ในปีนี้ สุดท้ายแล้วคาดจะเห็นเพียง 2 โครงการเท่านั้น คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ซึ่งได้ขายซองไปแล้ว และอีก 1 คาดจะเป็น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) หรือ จะเป็นรถไฟทางคู่เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ซึ่งน้อยกว่าสมมุติฐานของเราที่คาดจะเห็น 4 โครงการขนาดใหญ่ในปีนี้ คือ รถไฟฟ้า 2 สาย (ส้ม และ ม่วง) พร้อมกับ รถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และบ้านไผ่-นครพนม) จึงทำให้มูลค่าของงานที่จะเข้าสู่ตลาด น้อยลงจากที่คาดราว 3.5 แสนล้านบาท เหลือเพียง 2.0 แสนล้านบาท เท่านั้น
ทั้งนี้ เราปรับ CK ขึ้นมาเป็น Top pick ในกลุ่มรับเหมาฯ (ตัวใหญ่) เพราะแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรดูชัดเจน จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทลูก ไม่ว่าจะเป็น CKP (อานิสงค์น้ำเยอะจากโครงการไซยบุรี) และ BEM (เห็น Traffic จากทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น) ช่วยหนุนกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3/63 ไปจนถึงกำไรปี 64 เพิ่มขึ้นเกือบ 100% ดันกำไรของ CK ขึ้นไปเกินระดับพันล้านบาทอีกครั้ง หากพิจารณามุม PE (ปี 2021) จะอยู่ราว 25 เท่า ต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 30 เท่า และยิ่งถ้ามองในมุม PBv จะเห็นได้ว่า Valuation ยังอยู่ด้านล่าง (PBV -2SD) ซึ่งสะท้อนความเสี่ยงด้านล่างที่จำกัด แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 22 บาท อิง PBv -1.5SD จากค่าเฉลี่ยฯ
แม้ระยะสั้นโครงการขนาดใหญ่ที่คาดจะเปิดให้ยื่นซองประมูลอาจถูกเลื่อนออกไป ส่งผลกระทบต่อแบ็กล็อกและผลประกอบการของ CK แต่โชคดีที่บริษัทยังมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกอย่าง CKP และ BEM ที่แนวโน้มผลประกอบการกำลังฟื้นตัวดีเข้ามาสนับสนุน
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก