ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องผลงาน 3 ธุรกิจลีสซิ่ง

โดย ขบวนสุดท้าย
เผยแพร่ :
250 views

ส่องผลงาน 3 ธุรกิจลีสซิ่ง

กำไรจะเติบโตหรือไม่?...ท่ามกลางหนี้เสียที่อาจสูงขึ้น

 

.

ภายในสัปดาห์นี้หุ้นธนาคารน่าจะประกาศงบการเงินไตรมาส 1/66 ออกมา ซึ่ง Wealthy Thai ได้เคยทำคาดการณ์ออกมาแล้ว ครั้งนี้จึงมีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/66 ของหุ้นลีสซิ่งอย่าง SAWAD, MTC และ TIDLOR มาฝาก ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่น่าจับตามองว่าจะสร้างการเติบโตได้หรือไม่ ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดราย (NPL) และการตั้งสำรองที่อาจเพิ่มสูงขึ้น

.

มาเริ่มกันที่ SAWAD หรือ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า กำไรไตรมาส 1/66 ของ SAWAD จะปรับตัวขึ้น 20% จากฐานต่ำในไตรมาส 1/65 และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาส 4/65 ตามการเติบโตของสินเชื่อ

.

ส่วนภาพรวมปี 2566 นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาด SAWAD จะมีความโดดเด่นในการเร่งขยายสินเชื่อ และการเพิ่มส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่เหนือกว่าคู่แข่งอีกทั้งด้วยการคงนโยบายชะลอการปล่อยสินเชื่อในช่วงโควิด 19

.

อีกทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มือหนึ่งเป็นสินเชื่อที่มีการพิจารณา Credit ของลูกค้าเข้มงวดกว่าสินเชื่อจำนำทะเบียน ทำให้คาดคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทจะยังอยู่ในระดับที่แข็งแรง และทำให้คาดว่าการตั้งสำรองในปีนี้จะอยู่ในกรอบที่ประมาณการที่ 661 ล้านบาท หนุนให้คาดทั้งปี SAWAD จะมีกำไรสุทธิ 5,524 ล้านบาท โต 23.4% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 64 บาท

.

ถัดมาคือ MTC หรือ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) โดยนักวิเคราะห์จากบริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า คาดกําไรสุทธิไตรมาส 1/66 จะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 1/65 แต่จะทรงตัวใกล้เคียงไตรมาส 4/65 จากแนวโน้ม อัตราส่วนหนี้สงสัยจะสูญและขาดทุนจากการด้อยค่าต่อเงินให้สินเชื่อรวม (Credit Cost) ที่จะปรับเพิ่มขึ้น หักล้างผลบวกจากแนวโน้มสินเชื่อที่เติบโตต่อเนื่องไปได้ทั้งหมด

.

ส่วนภาพรวมปี 2566 คาดกําไรสุทธิจะปรับลดลง 8.6% มาอยู่ที่ 4,655 ล้านบาท จากแนวโน้ม Credit cost ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 4.0% จากผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าแนวโน้มสินเชื่อสุทธิปี 2566 ที่จะเติบโต 20% ไปได้ทั้งหมด จึงปรับลดคําแนะนําเป็น Switch (เดิมซื้อ)

.

สุดท้าย TIDLOR หรือ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์จากบริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า คาดกําไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 933 ล้านบาท ลดลง 1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อนหน้า

.

โดยเนื่องจากจากแนวโน้มสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม (Cost to income) ปรับลดลงตามฤดูกาล และสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าแนวโน้ม Spread ปรับลดลง ผลกระทบจากต้นทุนการเงิน (cost of funds) สูงขึ้น และรายได้นายหน้าประกันภัยอ่อนตัวลงตามฤดูกาล ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดกําไรสุทธิไตรมาส 2/66 จะทรงตัวจากไตรมาส 2/65 แต่ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/66 จากแนวโน้มสินเชื่อที่เติบโตต่อเนื่อง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว

.

สำหรับภาพรวมปี 2566 คาดกําไรสุทธิที่ 4,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากแนวโน้มสินเชื่อและรายได้นายหน้าประกันภัยที่เติบโตต่อเนื่อง และแนวโน้ม Cost to income ที่ปรับลดลง โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาหุ้นจะ “Outperform” จากแนวโน้มผลการดําเนินงานที่ฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ และให้ราคาเป้าหมายที่ 28 บาท

 

 


ขบวนสุดท้าย