ห้องเม่าปีกเหล็ก

PTTEP: แนวโน้มธุรกิจระยะยาวน่าสนใจ

โดย POWER
เผยแพร่ :
138 views

PTTEP: แนวโน้มธุรกิจระยะยาวน่าสนใจ

กลยุทธ์ “Coming Home Strategy” เริ่มส่งผล ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา PTTEP ได้ใช้กลยุทธ์ “Coming Home Strategy” ซึ่งเป็นการกลับมาขยายธุรกิจในพื้นที่ที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง ช่วยให้บริษัทฯ สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นโดยมีความเสี่ยงที่น้อยลงจากการเจาะเจอหลุมแห้ง ซึ่งเป็นนัยว่า downside ของกำไรที่จำกัด ทั้งนี้ PTTEP ตั้งเป้ายอดขายปี 2567 เพิ่มขึ้น 9% YoY เป็น 505 KBD สาเหตุหลักมาจากการผลิตปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นของโครงการ G1 โดยในการประชุมนักวิเคราะห์ไตรมาส 4/2566 ผู้บริหารกล่าวมั่นใจว่าโครงการจะสามารถบรรลุปริมาณผลิตต่อวันตามสัญญา (DCQ) ได้ภายในวันที่ 1 เม.ย. ขณะเดียวกันคาดว่าราคาขายก๊าซจะลดลง 3% YoY เป็น 5.7 ดอลลาร์สหรัฐฯ/mmbtu โดยในส่วนต้นทุนต่อหน่วยน่าจะทรงตัวในช่วง 28-29 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากการเจาะเจอหลุมแห้งที่ที่น้อยลง รวมถึงค่าภาคหลวงและอัตราภาษีที่แท้จริงที่ลดลง อันเป็นผลจากส่วนแบ่งกำไรของการผลิตปิโตรเลียมภายใต้สัญญาแบบแบ่งปันผลผลิต (PSC) ที่มีมากขึ้น

 

คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2571 เราคาดว่าปริมาณการขายของ PTTEP จะเพิ่มขึ้น 40-50% ในปี 2571 จากแผนการเริ่มผลิตปิโตรเลียมของโครงการ ลัง เลอบาห์ (SK410B) และโครงการโมซัมบิก ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่าจะทำการตัดสินใจการลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ของโครงการ SK410B และจะกลับมาเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการโมซัมบิกอีกครั้งภายในปีนี้ ทั้งสองโครงการคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายก๊าซครั้งแรกในครึ่งแรกของปี 2571 ซึ่งอาจหนุนให้ปริมาณการขายของ PTTEP ปรับเพิ่มเป็น 700-800 KBD จากเป้าหมาย 505 KBD ในปี 2567

 

พัฒนาธุรกิจใหม่ (beyond E&P) อย่างแข็งขัน นอกเหนือจากการขยายขนาดธุรกิจ AI และหุ่นยนต์ภายใต้บริษัทฯ ในเครือ (ARV) แล้ว PTTEP ยังตั้งเป้าที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการดักจับและการจัดเก็บคาร์บอน (CCS) ในรูปแบบการบริการ ไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพลังงานหมุนเวียน เพื่อเป็นหน่วยธุรกิจใหม่ของบริษัท ทั้งนี้ PTTEP มีแผนพัฒนาโครงการนำร่อง CCS ในโครงการอาทิตย์ โดยคาดว่าจะ FID ภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ บริษัทฯ เพิ่งจัดตั้งบริษัทฯ ร่วมทุนกับบริษัทฯ จากเกาหลี (POSCO, KOSPO และ Samsung) และบริษัทฯ Engie จากฝรั่งเศส เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศโอมานภายในปี 2573 และสุดท้าย เมื่อเร็ว ๆ นี้ PTTEP เข้าซื้อหุ้น 25.5% ในโครงการ Seagreen Offshore Wind Farm ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งจาก TotalEnergies และลงนามในบันทึก MOU เพื่อความร่วมมือเพิ่มเติมในธุรกิจกังหันลมนอกชายฝั่ง ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 และกระจายแหล่งที่มาของรายได้

 

แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 180.00 บาท ปัจจัยหนุนระยะสั้นคือกำไรครึ่งแรกของปี 2567 ที่ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น

 

 

 


POWER