3 หุ้น “ไฟแนนซ์” ตัวตึง!
ใครกันแน่! กำไรปี 66 จะโตโดดเด่น
.
หุ้นกลุ่ม “ไฟแนนซ์” ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มยอดนิยมของนักลงทุน ล่าสุดนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์มีปัจจัยบวก ได้แก่ 1.ความคืบหน้าของปัจจัยการเมืองหลังพรรคเพื่อไทยประกาศได้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 2.เงินเฟ้อไทย เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.38%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าคาดที่เพิ่มขึ้น 0.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดส่งผลให้ธปท.มีโอกาสคงดอกเบี้ยที่ 2.25% ในช่วงที่เหลือของปี 2566
.
ดังนั้น Wealthy Thai จะพานักลงทุนมาสำรวจปัจจัยพื้นฐาน 3 หุ้นกลุ่ม “ไฟแนนซ์” ยอดนิยม อย่าง TIDLOR, SAWAD และ MTC จะมีความน่าสนใจหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบแล้ว
.
เริ่มที่ TIDLOR นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/66 คาดที่ 944 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 5%จากไตรมาสก่อน โดยคาดสินเชื่อจะเพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 4% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 8.98 หมื่นล้านบาท
.
ส่วนไตรมาส 4/66 คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (แต่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล 3%จากไตรมาสก่อน) สินเชื่อในไตรมาสนี้จะเติบโต 15%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 4%จากไตรมาสก่อนโดยรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรวมจะเพิ่มขึ้น 21%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 26%จากไตรมาสก่อน หนุนโดยช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจประกันภัย
.
โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ต่ำกว่าประมาณการตลาด 4% อ้างอิงจาก Bloomberg) หนุนโดยการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ค่าคอมมิชชั่นการขายประกันที่สูงขึ้น ปัจจัย ดังกล่าวจะกลบอัตราการตั้งสำรองในปี 2566 ที่ 3.3% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
.
ส่วนประมาณการกำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% (ต่ำกว่าประมาณการตลาด 8% อ้างอิงจาก Bloomberg) ทำให้มองว่าอาจมีดาวน์ไซด์ต่อการประมาณการกำไรสุทธิปี 2566-67 ของตลาด แนะนำ ถือ เป้าหมายพื้นฐาน 25.00 บาท
.
ถัดมา SAWAD นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/66 คาดเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ผลักดันหลักจากรายได้ดอกเบี้ย ซึ่งคาดจะมีการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ผลประกอบการของ FM เปลี่ยนไปเป็น consolidate จาก equity sharing จาก SAWAD มีการซื้อหุ้นเงินสดทันใจ(FM) คืนจากทางออมสิน (GSB)
.
ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิปี 2566 คาดที่ 5,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน จะมี upside ขั้นต่ำ 0.6% ภาพรวมแนวโน้มดำเนินธุรกิจของ FM คาดคล่องตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหาลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น การคิดอัตราดอกเบี้ยที่ สูงขึ้น (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่15%) และค่าใช้จ่ายสำรองที่ผ่อนปรนมากขึ้น แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 65 บาท เป็น Top Pick ของกลุ่ม Consumer Finance
.
ปิดท้ายที่ MTC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้มองราคาหุ้นของ MTC ได้ตอบรับเชิงลบกับแนวโน้มการตั้งสำรองที่สูงขึ้นจากในอดีตไปมาก และคาดกำไรสุทธิจะฟื้นตัวขึ้นต่อไตรมาส 3/66 แต่ด้วยปัจจุบันราคาหุ้นมี Upside ค่อนข้างจำกัด จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2566 ที่ 36 บาท จึงคงแนะนำเพียง “TRADING”
.
สำหรับกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 66 คิดเป็น 40.3% ของประมาณการเดิมทั้งปี เนื่องจากการตั้งสำรองที่ลดลงได้ช้ากว่าที่คาด รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ยังทรงตัวในระดับสูง จากค่า Incentive เพื่อกระตุ้นให้พนักงานติดตามหนี้เสีย อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ส่วนไตรมาส 3/66 คาดผลงานของ MTC ฟื้นตัวขึ้นต่อ แม้คาดการตั้งสำรองยังทรงตัวในระดับสูง แต่คาดจะเริ่มมีแนวโน้มลดลง ตามคุณภาพสินเชื่อที่ค่อยๆ ดีขึ้น จากการเร่งติดตาม หนี้และการเพิ่มความเข้มงวดสำหรับสินเชื่อปล่อยใหม่
.
อีกทั้งได้อานิสงค์บวกจากมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจในช่วงปลายปี ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อยังอยู่ในระดับดี สะท้อนความต้องการเงินด่วนของ ลูกหนี้ฐานรากที่ยังมีอยู่มาก ทั้งนี้เพื่อยึดหลักอนุรักษ์นิยมจึงปรับเพิ่มสมมุติฐานการตั้งสำรองสำหรับปี 2566 และ 2567 ขึ้น 24.3% และ 19.3% ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิลดลง 15.7% และ 17.8% ตามลำดับ โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดทั้งปี 2566 MTC จะมีกำไรสุทธิ 4,747 ล้านบาท ลดลง 6.8%จากปีก่อน ก่อนที่จะกลับมาโต 17.8% ในปี 2567
