ก่อนอื่น ผู้โพสต์ขอเรียนให้ท่านนักลงทุนที่สนใจได้รับทราบว่าการใช้คําว่า " พวกหมดตูด " และ " พวกรวยเละ " นั้น ผู้โพสต์มีเจตนาในการสร้างสีสัน และแสดงให้ผู้ที่สนใจติดตามเห็นเป็นภาพกว้างๆประกอบการโพสต์เท่านั้น โดยไม่มีเจตนาที่จะลบหลู่ดูหมิ่น ยกยอปอปั้น หรือบิดเบือนข้อเท็จจริงใดๆทั้งสี้น และถ้าท่านนักลงทุนท่านใดแปลเจตนารมณ์ของผู้โพสต์ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากนี้ ตลอดจนในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อหุ้นหรือบุคคลที่สามที่ผู้โพสต์จะได้กล่าวอ้างอิงถึงต่อไปในที่นี้ ผู้โพสต์ก็ขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วย
"พวกหมดตูด " หมายถึง " Set Index และหุ้นบลูชิพที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรก " ที่ปรับตัวขึ้นไปทําจุดสูงสุดตลอดกาลหรือทําจุดสูงสุดใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ 2561 หรือก่อนหน้านั้นแล้วปรับตัวลดลงมาจนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2562 เพราะ " สงครามการค้าโลก และสงครามการเงินโลก " ดังนี้ คือ :
1) Set Index = -13.77%
2) PTT = -27.31%
3) AOT = +3.22%
4) CPALL = -16.39%
5) ADVANC = +5.00%
6) SCC = -26.70%
7) PTTEP = -21.45%
8) KBANK = -37.55%
9) SCB = -27.38%
10) BBL = -17.74%
11) PTTGC = -49.52%
12) ค่าเฉลี่ยของพวกหมดตูด = -20.87%
ส่วน " พวกรวยเละ " หมายถึง ดังนี้ คือ :
1) ถือหุ้น STEC ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ปี พ.ศ 2561 ที่ราคา 17.10 บาท มาถึงวันที่ 28 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ที่ 20.40 บาท โดยได้กําไร = ( 20.40 - 17.10 ) / 17.10 x 100 = +19.30% สาเหตุของการปรับตัวสูงขึ้นของ STEC เนื่องจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท ของรัฐบาลไทย
2) และ ถือหุ้น STEC อย่างต่อเนื่อง จากวันที่ 28 ธันวาคม ปี พ.ศ 2562 ถึงวันที่ 21 มีนาคม ปี พ.ศ 2562 ที่ราคาปิดที่ 22.70 บาท โดยได้กําไร ( 22.70 - 20.40 ) / 22.40 x 100 = +11.27% สาเหตุของการปรับตัวสูงขึ้นของ STEC เนื่องจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท ของรัฐบาลไทย
3) และ หลังจากนั้นก็ Long และ Short Set 50 Derivatives ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ปี พ.ศ 2562 มาถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2562 ตามการปั่นและทุบหุ้นของทรัมป์
4) รวมกําไรทั้งสิ้น = +159.71%
เพราะฉะนั้น " พวกรวยเละ " ให้ผลตอบแทนมากกว่า " พวกหมดตูด " โดยเฉลี่ย = +159.71 - ( -20.87%) = +180.58% ในช่วงเวลาเดียวกัน
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.settrade.com )
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Index Futures ตามการปั่นและทุบหุ้นของทรัมป์ได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook