เพื่อเป็นการสร้างสีสัน และ ผู้โพสต์คาดว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอนาคต ผู้โพสต์ขอแบ่งกลุ่มหุ้นที่จะกล่าวถึงออกเป็น 2 พวกด้วยกัน คือ :
1) พวก “ หมดอนาคต “ ซึ่งจะประกอบไปด้วยหุ้นตัวใหญ่ 5 ตัวด้วยกันคือ PTT, PTTEP, PTTGC, AOT และ SCC สาเหตุของการ “หมดอนาคต “ ก็เพราะเป็นเป้าหมายการขายของต่างชาติ และ สาเหตุที่ต่างชาติขายก็เพราะดอกเบี้ย Fed Fund Rate มีอัตราสูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ 0.50% และ นับวันความแตกต่างนี้จะมากขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ต่างชาติขายหุ้นไทยที่ได้กําไรแล้ว ซึ่งก็คือหุ้นตัวใหญ่ 5 ตัว ดังกล่าวข้างต้น เพื่อขนเงินกลับไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้ผลตอบแทนที่มากกว่า ตามที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน
2) พวก “ มีอนาคต “ ซึ่งจะประกอบไปด้วยวอแรนต์ 1 ตัวคือ “ ITD-W1 “ และ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกคือ ITD, CK, STEC และ UNIQ สาเหตุของการ " มีอนาคต " เพราะ :
2.1) เป็นหุ้นที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายการขายของต่างชาติ เพราะ เป็นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก และ ที่สำคัญที่สุดหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเพิ่งทำจุดต่าสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ถึง 4 ปีครึ่งในช่วงเดือน มีนาคม – พฤษภาคม ปี พ.ศ 2561 ที่ผ่านมานี้เอง
2.2) เหตุผลระยะสั้น : รัฐบาลน่าจะเร่งประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาทให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเรียกคะแนนนิยมกับประชาชนชาวไทย ตลอดจนรัฐบาลและประชาชนชาวต่างชาติ และ ในส่วนของ " ITD-W1 " นั้น เพราะเป็น Warrant และ เป็นเพราะ อาจจะมีความก้าวหน้าของโครงการทวาย และ โครงการโปแตส จ.อุดรฯ ที่จะเข้ามาเป็นปัจจัยบวกเสริมพิเศษมากกว่าการประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท ของ ITD
2.3) เหตุผลระยะยาว : รัฐบาลหลังการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 น่าจะดําเนินนโยบายโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาทอย่างต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งหลังของปี พ.ศ 2563 เพราะ เป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย และ เมื่อถึงครึ่งหลังของปี พ.ศ 2563 แล้ว ขาขึ้นรอบใหญ่ของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างก็น่าจะสิ้นสุดลง เพราะ 80% ของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท น่าจะมีการประมูลและรู้ผลแล้ว
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.settrade.com ) และ( www.set.or.th )
2) ต่างชาติขายหุ้นไทยจํานวน -9,643.35 ล้าน บาท ในวันนี้ วันที่ 14 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561 โดยขายสะสมทั้งปีจํานวน - 155,344.77 ล้าน บาท
3) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com