หุ้นดี ที่ไม่มีใครเอา

เนื้อหมูกิโลละ 150 บาท คนกิน

เนื้อหมูกิโลละ 200 บาท คนไม่กิน ไปกินเนื้ออย่างอื่นแทน

น้ำมันแพง คนพร้อมจะขายรถ ไปซื้อ EV CAR แทนทันที

หุุ้น 20 บาท ไม่มีคนเอา พอราคาขึ้นไป 40 บาท คนแห่กันเข้ามาซื้อ

หุ้นยิ่งแพง คนยิ่งแย่งกันซื้อ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เออ แปลกแฮะ จริงไหม ?

นี่แหละเขาเรียนกันว่าจิตวิทยาตลาด หรือ Psychology of market

ตลาดหุ้นนี่แหละ ใครมี "จิตวิทยาตลาด" เหนือคนอื่น คนนั้นคือผู้ชนะเสมอ

"หุ้นจะดีต้องมี CYCLE" เคยบอกเอาไว้เสมอ เพราะ "มันเล่นง่าย" มันมีรอบ

ถ้าอยากได้คำใหญ่ ก็ซื้อตอนที่ไม่มีใครเอา หรือตอนต้นรอบ

ธรรมชาติอย่างนึงของมนุษย์ที่เข้ามาในตลาด

จะชอบ "ไล่ราคา" ตรงช่วง OPTIMISM หรือช่วงที่ "ความโลภชนะความกลัว"

เวลาที่ราคามันขึ้น ๆๆๆ คนจะยิ่งเข้ามาไล่ ๆๆๆๆๆๆ

Story ตอนนั้นทยอยออกมาเรื่อย ๆ เป็นเดือน เป็นปี

สุดท้ายใช้เวลาประมาณ 1 - 2 ปี ราคาขึ้นไป PEAK

และเมื่อ "ความกลัวชนะความโลภ" ก็จะเกิดแรงขาย ๆๆๆๆๆ

ขายจนเกิด PANIC SELL ขายแบบไม่คิดชีวิต

แล้วก็จบรอบ ทิ้งบาดแผลเอาไว้มากมายสำหรับ "คนบนดอย"

จากนั้นถ้าหุ้นมันดี เดี่ยวมันก็กลับมารอบใหม่

วนไปวนมาแบบนี้

ทีนี้เราจะ "หาหุ้นคำใหญ่" ได้ยังไง

ถ้าทางพื้นฐาน ก็ตอนที่มันจบรอบไปแล้ว คนขายคนสุดท้ายขายออกไปจนหมด

และ "พร้อมที่จะขึ้นในปีนี้ หรือปีหน้า"

นี่แหละที่เรา "ต้องเข้าไปทำการบ้าน" ให้หนัก ๆ เพื่อเตรียมซื้อหรือเตรียมสะสม

ส่วนตัวจะดูพื้นฐานคู่กับเทคนิค

หากราฟสวย ๆ จากเทคนิคที่ฟิโบลงมา 67.8 - 78.6

แล้วมีแนวโน้มที่จะไม่ลงต่อหรือแนวโน้มที่จะกลับตัว

จากนั้นไปดู "พื้นฐาน" ที่ดีแต่ราคาลงมาเกินจริง

หรือพร้อมที่จะเกิด Story รอบใหม่ พร้อมที่จะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในอีก 1 - 2 ปีข้างหน้า

เน้นย้ำ....ศึกษาได้แต่ยังไม่จำเป็นต้องซื้อ

จะซื้อก็ต่อเมื่อ "มีสัญญาณกลับตัว" เท่านั้น

ซึ่งตรงนั้นแหละว่ากันในกราฟเทคนิค

"หุ้นดี ที่ไม่มีใครเอา" เท่าที่ดูรอบนี้มีอีกหลายตัว

ทั้งหุ้นเล็ก หุ้นกลาง หุ้นใหญ่