ตามรอยพอร์ตเจ้าสัว”สารัชถ์” เสริมหุ้นแบงก์คว้ายีลด์ 7-8 %
By รมย์รัมภา เริ่มรู้
ขึ้นชื่อว่าเศรษฐีหุ้นระดับ “เจ้าสัว” สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ขยับตัวทำอะไรล้วนแต่เป็นที่ใส่ใจในตลาดหุ้นและมีผลต่อราคาหุ้นในตลาดด้วยเช่นกัน
เริ่มมีกระแสข่าวเข้า “ช้อปหุ้นแบงก์” ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ทำให้ราคาหุ้นขึ้นรอรับข่าวจนมีชื่อขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นอันดับ 8 อย่างเป็นทางการด้วยการใช้เงินส่วนตัวซื้อหุ้น 130 ล้านหุ้น หรือ 0.93 % กลายเป็น พอร์ต “ Yield Play ” ที่ถูกจับตา
ก่อนหน้านี้มีการลงทุนหุ้นแบงก์ประเดิมที่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK จาก 14 มี.ค. 2567 GULF เข้าซื้อ จำนวน 20.54 ล้านหุ้น หรือ 0.87 % และทยอยซื้อต่อเนื่องจนถือแตะ 5.23 % ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนถือหุ้นที่ 107 ล้านหุ้นหรือ 4.53%
การเข้ามาลงทุนและทยอยเพิ่มสัดส่วนอย่างต่อเนื่องทำให้มีกระแสข่าวเข้ามาร่วมบริหารงานเพื่อสร้าง ecosystem ในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน แต่ปรากฎ GULF ยังไม่มีการส่งบอร์ดเข้านั่งบริการงานแต่ยังย้ำว่าเป็นการถือเพื่อการลงทุนจนทำให้กลบกระแสร้อนแรงไปได้
โดยระหว่างทาง GULF สามารถกวาดผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของหุ้นกลุ่มแบงก์ไปอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดย KBANK จ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2566 อัตรา 6.00 บาท รับได้เต็มๆ 123 ล้านบาท และงวดปี 2567 ปันผลถึง 10.50 บาท และ GULF ได้เงินสดไป 808 ล้านบาท
สำหรับ KTB ที่พึ่งเข้าลงทุนตรงกับประกาศปันผลระหว่างกาล 0.43 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD 12 พ.ย. และจ่ายจริง 27 พ.ย. ทำให้ได้รับเงินปันผลงวดนี้ 55.60 ล้านบาท แต่ความคาดหวังของตลาด KTB นอกจากอัตราปันผลในรอบครึ่งปีหลังแล้วยังได้เปรียบทั้งการเป็นแบงก์ที่ตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และโอกาสที่จะซื้อหุ้นคืนในอนาคตจะช่วยพยุงหุ้นอีกด้วย

“ภควัต พิสุทธิพันธุ์” รองหัวหน้าฝ่ายสายงานธุรกิจลูกค้ารายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) “ธีมหุ้นแบงก์ไทย” มีเสน่ห์เทียบกับตลาดหุ้นจากอัตราการ “จ่ายปันผลที่สม่ำเสมอระดับ 5-6 %” หาได้ยากได้ผลตอบแทนระดับนี้ในตลาดหุ้นตอนนี้ หากเศรษฐีหุ้นซักรายจะลงทุนต้องมองหุ้นแบงก์
ยิ่ง GULF มีการลงทุนในหุ้น KBANK ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อการลงทุนชัดเจนและรอบนี้นำเงินส่วนตัวลงทุนใน KTB เสมือนกระจายพอร์ตลงทุนเพราะราคาหุ้นทั้ง 2 แบงก์แถบไม่ได้ปรับตัวลดลง KBANK จาก 150 บาทมาแถว 180 บาท และยังมีประกาศซื้อหุ้นคืนอีกจนถึง 13 พ.ค. 2569
ส่วนราคา KTB ลักษณะเดียวกันจาก 21 บาท ที่ 27 บาท ช่วงราคา 4 วันที่ผ่านมาวอลุ่มจากกระแสข่าวเชื่อว่าราคาเข้าซื้อต่ำกว่า 27 บาท คาดแถว 23.95- 24.60 บาท บวกกับ KTB ขึ้น XD ปันผล 0.43 บาท วันที่ 12 พ.ย. คิดเป็นผลตอบแทนรอบนี้แค่ 1.7-1.8 % ด้วยปกติจ่ายปันผลครึ่งปีหลังอยู่ที่ 1.4- 1.5 บาท รวมประมาณ 1.9 บาท อัตราผลตอบปันผลอยู่ที่ 7.8 % ยังไม่ร่วม Capital Gain ในพอร์ตลงทุน
“มองว่าเอาแค่ปันผลทำไหมไม่ซื้อ TISCO มีอัตราปันผล 7 % แต่จ่ายรอบเดียว ขณะที่ 2 แบงก์จ่าย 2 รอบ ยิ่งมีแนวโน้ม KTB อาจจะประกาศซื้อหุ้นคืนในอนาคต และ KBANK มีโอกาสจ่านปันผลเพิ่มขึ้นเหมือนงวดปี 2567ที่ 10.50 บาท “
นักลงทุนในเน้นธีมปันผลที่จะเริ่มมีกองทุนปันผลเข้าช้อปหุ้นประเภทนี้ช่วง ธ.ค. –ม.ค. ทำให้ราคาลงไม่มากแต่ไม่ควรไล่ราคา มองมูลค่าเหมาะสมเดิม KTB อยู่ที่ 30.50 บาท ส่วน KBANK ให้ไว้ที่ 196.00 บาท
หากย้อนดูพอร์ตการลงทุนของ “เจ้าสัวกลาง” หรือ GULF แทบจะการันตรีต้องเป็นหุ้นที่มีกระแสเงินสด มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลในระดับสูง สะท้อนจากการทุ่มเงินลงทุนเข้าซื้อหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อได้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ที่ล่าสุดไตรมาส 3 ปี 2568 GULF รับรู้กำไรก้อนใหญ่ 3,829 ล้านบาท และรอบ 9 เดือน 10,626 ล้านบาท !!
ที่มา.. https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1208381