นักลงทุน VI ที่คนไทยรู้จักส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ในอเมริกาหรือไม่ก็ชาวยุโรป แต่รู้หรือไม่ว่า ชาวเอเชียที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนมีจำนวนไม่น้อย อย่างเช่นเมืองไทยก็มีนักลงทุน VI ตัวอย่าง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับหุ้น CPALL
สิงคโปร เป็นประเทศที่มีประวัติทางเศรษฐกิจอย่างยาวนานจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากนักถ้าจะมีนักลงทุน VI ที่ประสบความสำเร็จ และนี้คือ 4 นักลงทุน VI ชาวสิงคโปร์ที่คนไทยควรรู้จักครับ
1. Wong Kok Hoi
Wong Kok Hoi นักลงทุนเน้นคุณค่าที่มีปรัชญาการลงทุน 4 ข้อสำคัญ
(ที่มาภาพ : CNBC)
Wong Kok Hoi เป็นผู้ก่อตั้ง และผู้จัดการกองทุนของบริษัท APS Asset Management ที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ในประเทศสิงคโปร ก่อนหน้านั้น Wong Kok Hoi เคยทำงานใน GIC (Government Of Singapore Investment Corporation) หน่วยงามของภาครัฐที่ทำหน้าที่บริหารกองทุนการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปรโดยเฉพาะ ต่อมาทำงานที่ Cititrust & Banking Corporation ก่อนที่จะมาก่อตั้งบริษัท APS Asset Management การทำงานของเขาเป็นที่พิสูจน์ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้เห็นแล้วว่า การลงทุนก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างงดงาม เฉลี่ยแล้วเขาสร้างผลตอบแทนเป็นเลข 2 หลัก ไม่แพ้วอเร็น บัฟเฟตต์ เลยทีเดียว
APS Asset Management มีแนวคิดทางการลงทุนอยู่ 4 กุญแจสำคัญ นั้นคือ ....
Structural ideas : บริษัทมีความได้เปรียบทางการแข่งขันมากแค่ไหน มีคูเมืองที่ยากแก่การโจมตีหรือไม่ และมันได้รับการพิสูจน์ในระยะยาวแล้วหรือยัง
Economic ideas : บริษัทซื้อขายกันในระดับราคาเป็นอย่างไร แพงไปหรือไม่ หรือมันซื้อขายกันในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
Dynamic Ideas : รายได้ของบริษัทมีลักษณะเป็นวัฐจักรหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้น ธุรกิจของบริษัทได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหรือยัง
Opportunistic ideas : บริษัทมีโอกาสจะเจอเหตุการณ์พิเศษได้มากน้อยแค่ไหน (เช่น การโดนซื้อกิจการ การขายทรัพย์สินขนาดใหญ่ การจ่ายปันผลพิเศษ เป็นต้น)
2. Dr. Tan Chong Koay
Dr. Tan Chong Koay เน้นในเรื่องการลงทุนแบบเจาะลึก และค้นหาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า
(ที่มาภาพ : The Straits Time)
Dr. Tan Chong Koay เป็นผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษานักกลยุทธ์ของบริษัท Pheim Asset Management Pte Ltd. ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้งเอง Dr. Tan มีชื่อเสียงอย่างมากในการเอาชนะตลาดหุ้นสิงคโปร์ได้อย่างยาวนาน เขามีหลักการคิดในเรื่องของหุ้น คือ นักลงทุนจำเป็นจะต้องลงทุนแบบเจาะลึก (Focus) โดยการค้นหาหุ้นด้วยตนเองและซื้อมันในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น ปัจจุบันเขามีเงินที่รับบริหารมากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
3. Teng Ngiek Lian
Teng Ngiek Lian เป็นนักลงทุน VI ประเภท bottom up Investor คือ เลือกหุ้นลงทุนก่อนที่จะมองภาพใหญ่
(ที่มาภาพ : The Straits Time)
Teng Ngiek Lian เป็นผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศสิงคโปร ในปี 2016 บริษัทของเขา Target Asset Management มีทรัพย์สินให้บริหารมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
Teng Ngiek Lian เริ่มลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงในเอเชียเมื่อไม่นานมานี้ เพราะเขามองว่าบริษัทมากมายในเอเชียถูกซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า ไม่มีความจำเป็นต้องไปซื้อหุ้นในอเมริกาหรือยุโรป
Teng Ngiek Lian เป็นนักลงทุนประเภท bottom-up investor คือ เลือกที่ตัวหุ้นก่อนที่จะมองภาพใหญ่ ซึ่งเขามีกฏในการเลือกหุ้นอยู่ 2 ข้อนั้น คือ
(1) บริษัทอยุ่ในช่วงวัฐจักรการเติบโตอยู่ในช่วงไหน แล้วราคาที่ซื้อขายเป็นอย่างไร มีส่วนลดจากมุลค่าโดยเนื้อแท้หรือไม่
(2) บริษัทเคยผ่านสถานการณ์ยากลำบาก หรือเศรษฐกิจตกต่ำหรือไม่ แล้วทีมบริหารมีวิธีการรับมืออย่างไร
4. Yeo Seng Chong
"Right business with the right management at the right price" Yeo Seng Chong
(ที่มาภาพ : The Straits Time)
Yeo Seng Chong ผู้ก่อตั้ง Yeoman Capital Management และผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เขาสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 1009% คิดเป็นอัตราที่ทบต้นประมาณ 13% ต่อปี ซื่งถือว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงมาก
เขามีหลักการในการเลือกหุ้นลงทุนอยู่ 3 ข้อ นั้นคือ right business with the right management at the right price (ธุรกิจที่ดี ที่มีผู้บริหารดีเยี่ยม ในราคาที่สมเหตุสมผล)
--------------------------------
แปลโดย SiTh LoRd PaCk
ที่มา The Motley Fool
---------------------------------