กนง. 13 ส.ค. ดอกเบี้ยไทยบนทางสองแพร่ง

ก่อนถึงวันประชุม กนง. 13 สิงหาคมนี้ อุณหภูมิในตลาดการเงินร้อนกว่าปกติ เพราะมันไม่ใช่แค่ตัวเลข 0.25% บนกระดาษ แต่คือสัญญาณชี้ทางว่าไทยจะ “เร่งเครื่องเศรษฐกิจ” หรือ “ประคองเสถียรภาพ” ต่อไป
ตอนนี้เสียงในตลาดเริ่มแบ่งขั้วชัดเจน
ฝั่งหนึ่งมองว่าถึงเวลาลดดอกเบี้ยจาก 1.75% เหลือ 1.50% เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนแรง
อีกฝั่งกลับเชื่อว่าควรคงดอกเบี้ยไว้ เพื่อเก็บกระสุนเผื่อวันที่วิกฤตรุนแรงกว่านี้
โพลล่าสุดสะท้อนภาพที่สูสี แม้ฝั่งที่คาดว่าจะ “ลด” จะมีน้ำหนักราว 58% แต่เสียงที่อยากให้ “คง” ก็ยังหนักแน่นพอสมควร
เหตุผลที่อยากเห็นการลดดอกเบี้ย
บอนด์ยิลด์ 10 ปีไทยร่วงแตะ 1.45% ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย สะท้อนว่าตลาดมองว่าดอกเบี้ยสูงเกินจำเป็น
เศรษฐกิจครึ่งหลังปีนี้คาดว่าโตเพียง 1.6% ขณะที่เงินเฟ้อยังต่ำ กำลังซื้อซบ และธนาคารปล่อยกู้ยากขึ้น
เงินบาทที่แข็งค่าบวกแรงกดดันจากภาษีทรัมป์ ทำให้ผู้ส่งออกเจอศึกหนัก
เหตุผลที่อยากให้คงดอกเบี้ย
การคงดอกเบี้ยถือเป็นการเก็บ “กันชน” เผื่อใช้รับแรงกระแทกในอนาคต
ยังอยากรอดูผลกระทบจริงจากภาษีทรัมป์ก่อนขยับ
และยังเป็นสัญญาณรักษาความเชื่อมั่นด้านเสถียรภาพการเงินในสายตานักลงทุนต่างชาติ
เสียงจากนักวิเคราะห์
ตอนนี้เสียงในตลาดแตกออกเป็นสองฝั่งชัดเจน ฝั่งหนึ่งหนุนให้ “ลด” ทันที เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ลดต้นทุนทางการเงิน และเร่งให้การใช้จ่าย–ลงทุนเดินหน้าเร็วขึ้น ขณะที่อีกฝั่งมองว่าควร “คง” ดอกเบี้ยไว้ก่อน เพื่อรอดูผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงให้ชัด และเก็บกระสุนไว้ใช้ยามเศรษฐกิจโดนแรงกระแทกจริง ๆ
สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตา
หากลดดอกเบี้ย หุ้นกลุ่มบริโภคและอสังหาฯ อาจได้แรงบวกทันที
แต่ถ้าคงดอกเบี้ย ตลาดจะอ่านว่าแบงก์ชาติให้ความสำคัญกับเสถียรภาพมากกว่าการเร่งฟื้นเศรษฐกิจ
..
วันชี้ชะตา
13 สิงหาคมนี้ ไม่ใช่แค่การประชุมธรรมดา แต่เป็นจังหวะตัดสินใจที่อาจสั่นสะเทือนทั้งตลาดหุ้น ตลาดบอนด์ และกระเป๋าเงินของทุกคน
ที่มา. หุ้นพอร์ทระเบิด