วุ่นไม่เลิก! สภาฯอังกฤษคว่ำข้อตกลงเบร็กซิท ครั้งที่ 3
สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษลงมติไม่รับร่างข้อตกลงถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562 ด้วยมติ 344 ต่อ 286 เสียง ทำให้กระบวนการถอนตัวจากอียูเข้าสู่ความยุ่งยากมากขึ้น และมีความเป็นไปได้สูงว่า อังกฤษอาจจะต้องออกจากอียูอย่างไร้ข้อตกลง (no-deal Brexit) ในวันที่ 12 เมษายนที่กำลังจะมาถึง
นางเมย์ ซึ่งประกาศจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหากข้อตกลงดังกล่าวผ่านการรับรองจากสภา ออกมาแสดงความเห็นหลังรับรู้มติของสภาว่า เป็นรื่องที่น่าเสียใจยิ่ง และนี่คือความล้มเหลวทางกฎหมาย และอาจจะส่งผลให้อังกฤษต้องออกจากสหภาพยุโรป(อียู)ในวันที่ 12 เม.ย. นี้ และไม่มีเวลามากพอที่จะทำกระบวนการทางกฎหมายที่จำเป็นสำหรับการหลีกเลี่ยงการออกอย่างไร้ข้อตกลง
ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปแสดงความคิดเห็นว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจที่สภาผู้แทนฯของอังกฤษมีมติออกมาเช่นนั้น "อียูจะให้เวลาอังกฤษจนถึงวันที่ 12 เม.ย.ในการรายงานสิ่งที่อังกฤษจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป และขณะนี้มีแนวโน้มที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากอียูในวันที่ 12 เม.ย.โดยไม่มีข้อตกลง ซึ่งอียูก็ได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 12 เม.ย." แถลงการณ์ของคณะกรรมาธฺการยุโรประบุ
นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป ทวีตข้อความระบุว่า ผู้นำอียูจะจัดการประชุมในวันที่ 10 เม.ย.นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากอียู
สิ่งที่สภาผู้แทนฯอังกฤษลงมติไม่รับรอง คือข้อตกลงถอนตัว (Withdrawal Agreement) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเบร็กซิทที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำอียูก่อนหน้านี้ โดยรัฐสภายังไม่ได้พิจารณาปฏิญญาทางการเมือง (Political Declaration) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเบร็กซิทเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ สภาได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 432 ต่อ 202 เสียงในเดือนม.ค. คว่ำข้อตกลงงดังกล่าว ก่อนที่จะลงมติอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ด้วยคะแนนเสียง 391-242 เสียงคว่ำข้อตกลงเบร็กซิทเป็นครั้งที่ 2 แม้ว่าได้รับการแก้ไขจากนางเมย์ หลังมีการหารือกับผู้นำอียูแล้วก็ตาม
การที่ข้อตกลงเบร็กซิทไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาในวันนี้ ทำให้อังกฤษสามารถขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 (ว่าด้วยการแยกตัวออกจากอียู) ออกไปเป็นวันที่ 12 เม.ย.เท่านั้น จากเดิมที่อังกฤษมีกำหนดแยกตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้
ด้านนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝายค้านของอังกฤษ ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ซึ่งได้รับการขานรับจากพรรคสหภาพประชาธิปไตยแห่งไอร์แลนด์เหนือ (DUP) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก