เมื่อไทยและเวียดนามประกาศแผน PDP ฉบับใหม่
รับซื้อไฟฟ้ารวมกันกว่า 4 หมื่นเมกะวัตต์
หุ้นโรงไฟฟ้าใครได้ประโยชน์?

.
เศรษฐกิจในอาเซียนกลับเติบโตอีกครั้งการบริโภคและการผลิตเดินหน้าเต็มสูบ และในเวลาเดียวกันเทคโนโลยีของยานยนต์ก็อยู่ในก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนจากสันดาปเป็นไฟฟ้า ดังนั้น 2 ประเทศที่เติบโตสูงในอาเซียนทั้งไทยและเวียดนามจึงมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงมาก
.
ทั้งนี้ ไทยและเวียดนามที่กำลังจะประกาศแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือ PDP ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะรับซื้อไฟฟ้ารวมกันกว่า 40,000 เมกะวัตต์ นับเป็นโอกาสครั้งใหม่ของหุ้นโรงไฟฟ้าของไทยที่จะสร้างการเติบโตอย่างมาก และเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า ใครจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด
.
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟัง Wealthy Thai ฟังว่าแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (Power Development Plan : PDP) ทั้งในส่วนของประเทศไทย และของประเทศเวียดนาม ที่เชื่อว่าจะมีการประกาศรับซื้อไฟฟ้าในครั้งนี้รวมกันกว่า 40,000 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะมีการประกาศใช้ภายในเร็วๆนี้
.
โดยประเมินว่าแผน PDP ฉบับใหม่ของไทยในรอบปี 2562 -2573 ถ้าเป็นไปตามร่างแบบแผนเดิมคาดว่าภาครัฐจะประกาศรับซื้อไฟฟ้ากว่า 10,000 MW ซึ่งคาดว่าจะประกาศแผนใหม่ในครั้งนี้ภายในเดือนก.ย.65 จากนั้น เบื้องต้นทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)จะประกาศรับซื้อไฟฟ้าในส่วนแรกประมาณ 4,000-5,000 เมกะวัตต์
ขณะที่ในส่วนของประเทศเวียดนาม เชื่อว่ารัฐบาลเวียดนามจะประกาศแผน PDP ใหม่ภายในช่วงเดือนต.ค.65 โดยประเมินว่าการประกาศรับซื้อไฟฟ้าของประเทศเวียดนามในครั้งนี้จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าสูงถึง 30,000 เมกะวัตต์ ซึ่งแผน PDP ฉบับใหม่ของไทย และเวียดนาม เชื่อว่าจะเน้นการรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบพลังงานทดแทนเป็นหลัก
.
สำหรับกลุ่มหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของไทย และของเวียดนามนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจโรงไฟฟ้าของไทยในตลาดหลักทรัพย์ล้วนแล้วแต่มีโอกาส และจะได้รับประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว เนื่องจากหลายบริษัทมีความพร้อม ที่จะพัฒนาและเพิ่มกำลังการผลิตให้กับบริษัท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการประกาศรับซื้อไฟฟ้าใหม่เข้าระบบ
.
ทั้งนี้มีมุมมองว่าหุ้นเด่นโรงไฟฟ้าที่แนะนำในช่วงที่ผ่านมา เช่น GULF ซึ่งมองว่าบริษัทมีศักยภาพเพียงต่อการเข้าร่วมประมูลแผน PDP ฉบับใหม่ทั้งของไทยและเวียดนาม เนื่องจาก GULF เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีโรงไฟฟ้าทั้งในไทยและเวียดนามรวมถึงโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศยุโรป และมีพันธมิตรที่พร้อมเข้าร่วมลงทุน
.
ขณะที่ GUNKUL เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นโรงไฟฟ้าของไทยที่จะได้ประโยชน์จากการแผน PDP ฉบับใหม่ทั้งของไทยและของเวียดนาม โดย GUNKUL ก็มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่จ่ายไฟเข้าระบบแล้วทั้งที่ไทย และจากเวียดนาม ประกอบกับมีโอกาสที่จะรับงานประเภท EPC เพิ่มเติมจากการร่วมทุนกับ GULF
.
ด้าน SSP ถึงแม้จะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีกำลังการผลิต 250 เมกะวัตต์ แต่ทางบริษัทตั้งเป้าจะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ได้เป็น 500 เมกะวัตต์ ซึ่งแผน PDP ฉบับใหม่ก็ตอบโจทย์แผนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของ SSP ซึ่งบริษัทจะได้ประโยชน์โดยตรงจากแผน PDP ฉบับดังกล่าวที่เน้นในด้านของพลังงานทดแทนเป็นหลัก เช่นโครงการโซลาร์ ฟาร์มเป็นต้น