โดย Rubio
เผยแพร่ : 
65 viewsสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -3 ส.ค. 65 17:52 น.
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย มองศก.ยังผันผวนอีก 2-3 ปี เตรียมรับมือความเสี่ยงโลก-การลงทุน ด้านกรณีนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรสเยือนไต้หวัน มองมีนัยสำคัญ หวั่นมีปัญหาระหว่างสหรัฐ-จีน
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยในงานสัมนาจัดทัพลงทุนฝ่าวิกฤตเงินเฟ้อว่า ภาพรวมของวิกฤตเงินเฟ้อมองว่ายังอยู่ระดับสูงเกินระดับ 2% โดยจะขยับสูงในช่วงครึ่งปีหลัง 65 และมองว่าอาจสูงจนถึงปี 66 ซึ่งปัจจุบันมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ยังผันผวนค่อนข้างมาก และกินระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี ซึ่งปัจจุบันช่วงเวลาดังกล่าวผ่านมาแล้วประมาณครึ่งปี โดยหลังจากนี้มองว่าสภาพเศรษฐกิจช่วงที่เหลือยังขึ้นกับการดำเนินนโยบายทางการเงินของทั่วโลก ซึ่งจะกระทบต่อการลงทุนให้เปลี่ยนไปตามปัจจัยต่างๆ
" ช่วง 2-3 ปีจากนี้ยังไม่ง่ายโดยยังมีความเสี่ยงมากให้เตรียมรับมือ ทั้งความขัดแย้งระหว่างประเทศ วิกฤตราคาพลังงาน อาหารโลก ความปั่นป่วนตลาดการเงิน และมีโอกาสตลาดเกิดใหม่ยังเจอวิกฤต " นายกอบศักดิ์กล่าว
สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศไทยอยู่ที่ 2.5% ซึ่งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่าเงินเฟ้อยังสามารถรับได้ โดยภาพรวมเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาน้ำมัน หากราคาน้ำมันหน้าปั๊มปรับตัวลดลงแล้ว มีโอกาสที่เงินเฟ้อจะปรับตัวลงตาม ซึ่ง
ด้านกรณีการเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯ ครั้งนี้ มองว่ามีนัยสำคัญ เนื่องจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า หากจีนส่งกองทัพเข้าไปไต้หวัน สหรัฐฯจะส่งกองทัพเข้าไปปกป้อง ซึ่งหากมีปัญหาขึ้นมามองว่าจะมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมา เนื่องจีนเป็นจุดศูนย์กลางของโลก ประกอบกับจีนถือพันธบัตรสหรัฐฯสูงในระดับ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมองว่าสหรัฐฯ อาจคิดมาดีแล้ว
ด้านนายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า การลงทุนในช่วงวิกฤตเงินเฟ้อ ขึ้นกับวัตุประสงค์ของนักลงทุน โดยหากสามารถลงทุนระยะยาวเงินเย็น 5-6ปี และรับความเสี่ยงได้ แนะนำหุ้นทุน ส่วนเงินที่ต้องการใช้ในชีวิตประจำวันและยังสามารถรักษาอำนาจการจับจ่าย แนะนำตราสารหนี้
ส่วนนายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคทีบีเอสที โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะเงินเฟ้อลดลง(Disinflation) มีโอกาสเกิดประมาณ 60% เมื่อเทียบกับภาวะถดถอยและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยแนะนำการลงทุนภาวะ Disinflation ลงทุนในหุ้นแนวโนมเติบโต , ตลาดหุ้นเกิดใหม่ กอง REIT
และนางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน จำกัด เปิดเผยว่าการลงทุนระยะสั้นยังมีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น แนวต้านแรก 1,780 / 1,800 / 1,816 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะยังเก็งกำไรได้ ส่วนลงทุนระยะกลางแกว่งตัวลง แนะเก็งกำไรแนวรับ 1,711 / 1,681 ดอลลาร์/ออนซ์ และระยะยาวมองว่าถึงสิ้นปีมีโอกาสเห็นในระดับ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์
