ห้องเม่าปีกเหล็ก

ผ่ากลยุทธ์ “ผู้อยู่รอดคนสุดท้าย” ของ IVL

โดย dave
เผยแพร่ :
88 views

ผ่ากลยุทธ์ “ผู้อยู่รอดคนสุดท้าย” ของ IVL คาดธุรกิจปลายน้ำฟื้นสิ้นปีนี้

หนึ่งในหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีที่ราคาลงมาตลอดทางอีกหนึ่งตัว นั่นคือ IVL แม้ล่าสุดราคาหุ้นจะดีดกลับมาเล็กน้อย โดยเมื่อวาน (5 ต.ค.63) ราคาหุ้นปิดตลาดภาคเช้าวันนี้ที่ราคา 22.50 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 7.14% ทั้งนี้ถ้าเทียบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (6 ต.ค.60-5 ต.ค.63) ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 52.81%



ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้น IVL ลดลง มาจากการลดใช้พลาสติกทั่วโลก เพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน แต่ปัจจัยเด่นเฉพาะตัวที่ทำให้หุ้น IVL ยังรอด!!!!!! หรือเปรียบง่ายๆ ว่าน่าจะเป็นหุ้นอีกตัวที่เป็น Last Man Standing ในตลาด กับการเข้าลุยซื้อธุรกิจทั่วโลก เพื่อเดินหน้าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

ทั้งนี้ในปีที่แล้วนอกจากจะเป็นที่ IVL ลงทุนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากการซื้อกิจการ Huntsman เพื่อขยายฐานลูกค้าตลาดผลิตภัณฑ์สารลดแรงตึงผิว และยังเป็นปีสำคัญที่ IVL มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูงสุด ที่ประมาณ 1,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

IVL เป็นผู้เล่นที่เติบโตมาจากการที่วัตถุดิบหลักอย่าง “PET” ยังคงเป็นพลาสติกเพียงชนิดเดียวที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% และสามารถนำกลับมาผลิตขวดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าวัสดุอื่นๆ เช่น แก้ว อลูมิเนียม โดย IVL ประเมินธุรกิจ PET เติบโต 1,000,000 ตันต่อปี และจะยังคงเติบโตควบคู่ไปกับ “วัสดุรีไซเคิล”




บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ในไตรมาส 3/63 “ธุรกิจปลายน้ำ” มีโอกาสฟื้นตัวแบบ V-shaped โดยดีมานด์ต่อผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็น ซึ่งคิดเป็นสดส่วนประมาณ 74% ของรายได้ของ IVL ยังคงแข็งแกร่งในไตรมาส 3/63 แต่ดีมานด์บางผลิตภัณฑ์ของ IVL จากที่กล่าวมาดังข้างต้นปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 2/63 ที่มีการล็อคดาวน์ นับตั้งแต่เริ่มผ่อนคลายการปิดเมือง ทั้งนี้คาดว่าแนวโน้มของธุรกิจดังกล่าว จะเติบโตต่อเนื่องไปในไตรมาส 4/63 ในทางกลับกันดีมานด์ต่อผลิตภัณฑ์ Mobility Fibers (กลุ่มยานยนต์) และ Lifestyle Fibers (ตกแต่งบ้าน&ก่อสร้าง) ประมาณ 12% ของรายได้ของ IVL ในปี 2562 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ



เศรษฐกิจคลี่คลาย หนุนผลการดำเนินงาน IVL ปีหน้า



สุดท้ายการเติบโตในอนาคต นักวิเคราะห์มองว่าในปี 2564 หากสามารถควบคุมการระบาดของ Covid-19 ได้และเศรษฐกิจโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัว ตามที่ World Bank คาดว่า GDP โลกจะเติบโตอยู่ที่ 4.2% ในปีหน้า (เทียบกับการหดตัว 5.2% ในปี 2563) ในขณะที่ IMF คาดการณ์การเติบโตของ GDP โลกที่ 5.4% ในปี 2564 (เทียบกับการหดตัว 4.9% ในปีนี้) โดยการฟื้นของเศรษฐกิจจะหนุนให้ดีมานด์ของผลิตภัณฑ์ IVL เติบโตแข็งแกร่ง เนื่องจากอัตราการเติบโตของดีมานด์ในอุตสาหกรรมปลายทางส่วนใหญ่เติบโตมากกว่า 1 เท่าของอัตราการเติบโตของ GDP ดังนี้



อาหารและเครื่องดื่ม (เติบโต 1.3 เท่าของ GDP โลก)
• HH&P (เติบโต 1.2 เท่า)
• ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ (เติบโต 2.3 เท่า)
• เครื่องแต่งกาย (เติบโต 1.3 เท่า)
• E&E (เติบโต 1.7 เท่า)



โดยดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของอุตสาหกรรมปลายทาง น่าจะส่งผลให้ปริมาณขายของ IVL ขยายตัวในปี 2564 ขณะเดียวกันประเมินว่าส่วนต่างราคาปิโตรเคมีบางประเภท น่าจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้าด้วยเช่นกัน จึงแนะนำ “ซื้อ” IVL โดยให้ราคาเป้าหมาย 38 บาท



ASP แนะทยอยสะสมหุ้น หลังราคา IVL ปรับลงรับความกังวลตลาดไปแล้ว

 

ด้านบล.เอเซีย พลัส จำกัด มองว่า แม้ Huntmans จะปิดชั่วคราว จากพายุเข้าในสหรัฐฯ (ซึ่งมักจะเป็นช่วงไตรมาส 3 ของทุกปี) แต่ทาง IVL แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้เตรียมแผนรับมือดูแลการใช้อุปกรณ์ในโรงงานให้มีความปลอดภัย และพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการผลิตใหม่ได้ทันทีที่สถานการณ์คลี่คลายลง แต่ทางฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมาย 32 บาท เพราะมองว่าราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาปรับสะท้อนความกังวลต่างๆ ไปแล้วระดับหนึ่ง จึงแนะนำให้หาจังหวะทยอยสะสมหุ้น ทั้งนี้นักลงทุนจะต้องระวังความเสี่ยงและติดตามข่าวพายุเฮอริเคนต่อเนื่อง

 

 

 

 ขณะที่บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่า ผลประกอบการ IVL จะฟื้นตัวในไตรมาส 3/63 แม้จะมีการปิดโรงงานแยกก๊าซจากเฟ้าผ่า และการสูญเสียกำลังการผลิตจากเฮอร์ริเคนที่กระทบ Port Neches ในรัฐ Texas โดย Integrated PET spreads จะลดลงจากผลของฤดูกาล ก็ตาม แต่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดียวกับบล.บัวหลวง และเอเซีย พลัส โดยบล.กรุงศรี ให้ราคาเป้าหมาย 35 บาท

ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ให้ราคาเป้าหมายหุ้น IVL ไว้ที่ 31.8 บาท และประเมินกำไรสุทธิปีนี้ที่ 7,079 ล้านบาท และปี 2564 ที่ 12,853 ล้านบาท

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


dave