โดย stock-news
เผยแพร่ : 
67 views
สิ่งที่นักลงทุนต้องการในการซื้อหุ้น นั่นคือ ซื้อหุ้น “ที่ใช่” จากนั้นก็นั่งรอผลตอบแทนจากเงินปันผล หลายๆ คนอาจจะ มองว่าซื้อ “หุ้นปันผล” ไม่น่าตื่นเต้น แต่ในอดีตที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าหุ้นปันผลเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ คำถาม คือ ระหว่างได้รับเงินปันผลต่อเนื่อง กับซื้อหุ้นเก็งกำไร แต่ไม่รู้ว่าระหว่างทางจะเกิดอะไรขึ้น นักลงทุนจะเลือกทางไหน
สมมติว่าถ้านักลงทุนสนใจซื้อหุ้นปันผลสัก 3-5 ตัว จะมีคำถามตามมาว่า จะเลือกหุ้นปันผลอย่างไร ซึ่งบทความเดือนนี้ขอ แนะนำเทคนิคการเลือกหุ้นปันผลอย่างง่าย โดยให้ดูระดับอัตราปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ว่าอยู่ในระดับไหน
โดยนักลงทุนควรกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุนว่าต้องการอัตราปันผลตอบแทน เท่าไหร่ ส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อบวกกับดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อให้ได้อัตราปันผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Dividend Yield)
ยกตัวอย่าง อัตราเงินเฟ้อปี 2559 อยู่ที่ระดับ 1.55% ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 2% ขณะที่อัตราปันผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 3% แสดงว่าอัตราปันผลตอบแทนที่แท้จริงติดลบ -0.55% ดังนั้น การลงทุนหุ้นปันผลควรเลือกหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อบวกกับดอกเบี้ยเงินฝาก
เหตุผลที่ต้องลงทุนในหุ้นปันผล ก็คือ เพื่อเอาชนะอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น ส่วนหนึ่งที่จะสามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อและ อยู่รอดได้ในระยะยาว นั่นคือ การลงทุนในหุ้น แต่เป็นตลาดการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น หุ้นปันผลเป็นทางเลือกหนึ่ง เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน และสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง
ข้อดีของการลงทุนในหุ้นปันผล ทำให้นักลงทุนรู้สึกเหมือนกับว่ามีรายได้จากเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นรายไตรมาส ครึ่งปี หรือรับเงินปันผลปีละครั้ง นั่นคือ มีกระแสเงินสดรับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
หุ้นปันผลเหมาะสมกับการลงทุนในช่วงสภาวะดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งเหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่หรือผู้ที่เข้าสู่วัยเกษียณ เพราะหุ้นปันผลสามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้ ที่สำคัญให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินหุ้นปันผลประจำปี 2559 ให้นักลงทุนได้นำไปพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน
- ที่มา moneychannel
