หุ้นไทยปิดลบ 33.73 จุด รายย่อยไม่กลัวสงคราม ลุยซื้อ 4.9 พันล้าน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปิดวันนี้ (24 ก.พ.) ที่ระดับ 1,662.72 จุด ลดลง 33.73 จุด (-1.99%) มูลค่าการซื้อขาย 126,557.78 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุด 1,690.50 จุด และลงไปลึกถึงระดับต่ำสุดที่ 1,656.62 จุด นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 4,875.86 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรงสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังจากรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มหลายเมือง และวางกำลังทหารบริเวณชายแดนยูเครนในวันนี้ โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียอนุมัติให้เริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษในภาคตะวันออกของยูเครน ถือว่าเข้าสู่ภาวะสงคราม จึงเป็นแรงกดดันให้มีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) น.ส.ธีรดา คาดว่า หากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยปฏิบัติการทางการทหาร ตลาดฯ ก็คงจะปรับตัวลงต่อ ให้แนวรับ 1,640-1,650 จุด และแนวต้าน 1,670-1,680 จุด แนะนักลงทุนติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 8,226.78 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,968.52 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
- BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,689.66 ล้านบาท ปิดที่ 139.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
- CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,265.52 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
- BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,100.69 ล้านบาท ปิดที่ 23.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท