ห้องเม่าปีกเหล็ก

การจัดพอร์ตลงทุนของแต่ละ Generation

โดย Ozone Pinyo
เผยแพร่ :
68 views

การจัดพอร์ตลงทุนของแต่ละ Generation
--------------------------------------------------
ในการจัดพอร์ตลงทุน เมื่อเรามีเวลาลงทุนได้ยาวนานก็จะรับเสี่ยงได้มากกว่าคนอื่นเพื่อหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่ถ้ามีเวลาลงทุนน้อยก็ไม่ควรนำเงินไปเสี่ยงเยอะ เพราะไม่ค่อยเหลือเวลาแก้ตัว

แล้วเวลายาวนานหรือเหลือน้อยสำหรับการลงทุนนั้น มันหมายถึงอะไร
-----------------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้ถ้าว่าตามทฤษฎีก็อย่างหนึ่ง แต่ถ้าว่าในทางปฏิบัติขอให้คำนิยามส่วนตัวว่า มันคือ “เวลาคงเหลือก่อนที่เราจำเป็นต้องใช้เงินแต่ละก้อนนั้น ไม่ว่าเราจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม”

แนวคิดส่วนตัวนี้แม้จะดูนอกกรอบไปสักหน่อย แต่มันก็คือความจริง

เพราะแม้แต่คนเกษียณแล้ว ไม่ได้แปลว่าจะต้องลดความเสี่ยงไปทั้งพอร์ตแล้วหันไปฝากเงินอย่างเดียว หรือมีตราสารหนี้ พันธบัตร ไปทั้งหมด เนื่องจากไม่ใช่ว่าเกษียณปุ๊บจะตายปั๊บ บางคนอยู่ได้ถึง 90 ปี 100 ปี ด้วยซ้ำ ดังนั้น เขาจึงสามารถแบ่งเงินเป็นก้อนๆ ได้ว่า ... ก้อนนี้จะไม่ใช้ภายใน 5-7 ปี ... ก้อนนี้ต้องใช้ภายใน 2-3 ปีนี้ ฯลฯ เมื่อแบ่งก้อนเงินตามเวลาแล้ว เขาก็จะมีโอกาสในการลงทุนที่กว้างขึ้น ซึ่งหากไปแช่เงินทั้งหมดในเงินฝาก ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ อย่างที่เป็นอยู่ น่าจะไม่พอใช้ในตลอดอายุขัย ต้องรีบๆ ตายไปให้พ้น

ส่วนคนที่อายุน้อยๆ บางคนก็รับความเสี่ยงได้ไม่มากสำหรับก้อนเงินที่จะต้องใช้ในเร็ววัน เช่น เหลืออีก 1 ปีจะต้องใช้เงินในการดาวน์บ้าน แบบนี้ก็ไม่ควรนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในหุ้น แต่เขาอาจมีเงินที่สะสมได้อีกก้อนหนึ่งที่จะใช้ยามเกษียณในอีกหลายสิบปีข้างหน้า เงินส่วนนี้จึงรับความเสี่ยงสูงจากหุ้นได้

สรุปก็คือเงินของแต่ละคน ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม สามารถจัดแบ่งได้ตาม “เวลาที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนนั้น” และ “คนหนึ่งคนก็ควรจะวางแผนลงทุนกับระดับความเสี่ยงในการลงทุนที่รับได้ โดยแยกก้อนเงินที่จะใช้ตามช่วงเวลา”

ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนั้น คือแนวคิดที่ใช้ในการวางแผนการเงินของตนเองมาโดยตลอด
.

ถ้าแยกตาม Generation มีคำแนะนำกว้างๆ ไหม ว่าควรลงทุนอย่างไร
----------------------------------------------------------------------------------
.
1. Gen Baby
------------------
ก็คือ Generation Baby Boomer นั่นแหละ แต่เรียกให้ตนเองสบายใจขึ้น ใครจะทำไม

คน Gen นี้ผ่านความทุกข์ยากตามสภาพเศรษฐกิจมาก่อนหลายวัฏจักร มีนิสัยทุ่มเท ทำงานเก็บเงินเก็บทอง เห็นคุณค่าของเงิน จึงไม่ชอบการขาดทุน นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นในตัวเองสูง และหากเชื่อใครรักใครแล้วเปลี่ยนใจยาก

วันนี้ Gen Baby เกือบทั้งกลุ่มได้เกษียณแล้ว ดังนนั้น การจัดพอร์ตจำต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเงินเก็บเงินออม แต่ขณะเดียวกันก็อย่าไปกลัวว่าจะขาดทุนเงินต้นจนไม่กล้าลงทุน

ให้จัดพอร์ตหรือเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับวัยเกษียณ เน้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำสัก 70-80% แล้วนำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนในหุ้น กองอสังหาฯ โครงสร้างพื้นฐาน REIT ที่มีรูปแบบการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ทำให้เงินในกระเป๋าโดยรวมสามารถงอกเงยได้ผลตอบแทนดีกว่าเงินเฟ้อ ป้องกันไม่ให้ค่าเงินลดลง จากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เงินเก็บเงินออมในส่วนปลอดภัย ต้องกระจายเก็บกระจายฝาก อย่ามั่นใจอะไรง่ายๆ ไม่ว่าจะสหกรณ์ หุ้นกู้ ธนาคาร ต้องจัดสรร ถ้าทำไม่ถูกก็ให้กองทุนดูแล เพราะกองทุนมีการกระจายอยู่แล้ว

มีคำเตือนพิเศษคือ วัยนี้จะมีเงินก้อนจากการทำงานมาทั้งชีวิต จึงต้องระมัดระวัง ต้องพึงระลึกเสมอว่าเงินก้อนนี้คือเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต อย่าหวังน้ำบ่อหน้าให้ลูกหลานดูแล ต้องป้องกันไว้ก่อน ห้ามใจดีกับลูกหลาน อย่าไปให้เงินก้อนกับเขาจนตนเองไม่เหลือพอใช้ และอย่าเผลอหลงหลาน พากินพาเที่ยว จ่ายเงินซื้อของให้หลานตัวน้อยด้วยความรักจนเกินพอดี ต้องคิดคร่าวๆ ก่อนว่าแต่ละเดือนเราต้องใช้จ่ายเท่าไร ค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาล ที่ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เงินเฟ้อค่ารักษาพยาบาลนี่สูงมาก
.

Gen X
---------
X ในวันนี้ คือกลุ่มวัยกลางคนจนถึงวัยที่เข้าใกล้วัยเกษียณ วัยนี้ถ้าเป็นรุ่นแรกๆ จะเกิดท่ามกลางความทุกข์ยากของพ่อแม่คือ Gen Baby จึงถูกฝึกฝนด้านวินัย ความอดทน (แต่ยังไม่ถูกฝึกเข้มเท่า Gen Baby) X จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่า เพราะใช้ชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง เกิดในยุคทีวีสี มีเครื่องวีดีโอ มีเกมกด เป็นวัยรุ่นในช่วงเริ่มมีคอมพิวเตอร์ เริ่มทำงานในยุคราคาโทรศัพท์มือถือจับต้องได้ จนถึงปัจจุบัน

ด้านการเงิน X ในวันนี้เป็นวัยมั่งคั่ง เพราะสะสมเงินออมตลอดช่วงชีวิตการทำงาน ผ่านช่วงต้มยำกุ้ง แต่มีเวลาแก้ตัว รู้จักการลงทุนในหุ้น ทองคำ อยู่ในช่วงรอยต่อของดอกเบี้ยสูงและดอกเบี้ยต่ำ จึงดิ้นรนหาทางเลือกอื่น และรู้จักกองทุนที่ช่วยลดภาษี

พอร์ตลงทุนของ X จึงควรมีส่วนผสมทั้งหุ้นและตราสารหนี้ อย่าใส่หุ้นเยอะเหมือนตอนอายุ 30-40ปี เพราะจากนี้ไปตลาดหุ้นจะไม่สวยงามให้ผลตอบแทนสูงๆ เหมือนก่อน อาจจะลงทุนในหุ้น ตั้งแต่ 40-70% แล้วแต่ว่ามีอายุการทำงานเหลือเท่าไร ส่วนที่เหลือก็เป็นตราสารหนี้หรือเงินฝาก c]tแบ่งไปลงพวกกองทุนอสังหาฯ REIT โครงสร้างพื้นฐานบ้าง

ที่สำคัญ X ต้องกระจายการลงทุนและดูผลตอบแทนแบบพอร์ตการลงทุน ไม่ดูเป็นรายผลิตภัณฑ์ และต้องรู้จักปรับสัดส่วนการลงทุน โดยลดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลงเมื่อเข้าใกล้วัยเกษียณมากขึ้น เพราะเวลาแก้ตัวจะน้อยลง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับเงินลงทุนของ X
.

Gen Y
--------
Y ในปัจจุบันเป็นวัยตั้งแต่เริ่มต้นทำงานจนถึงทำงานมาแล้วประมาณ 10 – 15 ปี วัยนี้จะต่างจาก X มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะอายุต่างกันไม่มาก เพราะ Y เกิดในยุคที่พ่อแม่ Gen X เริ่มมีเงินทอง มีลูกน้อยลง รักลูกมาก เริ่มให้อิสระทางความคิดในการเลี้ยงดู ... Y จึงเกิดมาพร้อมคอมพิวเตอร์และการเติบโตทางเทคโนโลยี มีเงินในมือใช้จ่ายจากผู้ปกครองพ่อแม่ ในระดับที่ดี

พอร์ตลงทุนข้อง Y ควรเป็นพอร์ตที่มีหุ้นสูงเพราะยังอยู่วัยเริ่มต้นทำงาน อาจจะถึง 70-90% แต่จุดสำคัญของ Y ที่น่าเป็นห่วงคือมีหนี้เยอะ จึงต้องสร้างวินัยทางการเงินและควบคุมการใช้จ่ายให้ได้ เพราะ Y เติบโตมาในยุคที่สังคมเปิดกว้าง กล้าคิด กล้าทำ แต่ประสบการณ์ยังน้อย มีโอกาสผิดพลาดสูง เพราะเป็นกลุ่มมั่นใจในตัวเองมาก อาจจะมองอะไรไม่รอบด้าน

การตัดสินใจลงทุนของ Y มักจะนิยมชมชอบคนที่ประสบความสำเร็จ ให้ความสำคัญกับเรื่องเงินกับการประสบความสำเร็จ เปลี่ยนใจง่าย ถ้าใครอยู่วัยนี้ต้องบังคับตัวเองให้ได้ ออมก่อนใช้ บังคับลงทุนแบบถัวเฉลี่ยไปเลย การบังคับให้ลงทุนระยะยาวควรลงทุนสม่ำเสมอทุกเดือน ไม่ใช่ว่าเจอช่วงเศรษฐกิจและการลงทุนผันผวนเลยย้ายไปย้ายมา แบบนั้นคงจะแย่
.

Gen Z
---------
Z เป็นกลุ่มที่เกิดช่วงปี 2540 ขึ้นไป เกิดหลังวิกฤตด้านการเงิน จึงไม่เห็นความทุกข์ยากของต้มยำกุ้ง มีชีวิตสะดวกสบาย เกิดมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ชอบการผจญภัย เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่ถ้าเจอสิ่งที่ถูกใจจะทุ่มเท สนใจอะไรจะจริงจัง มั่นคงกว่าเจน Y

ปัจจุบัน Z เริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน ชอบอะไรชัดเจนเห็นผล แม้ว่าการลงทุนระยะยาวเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับวัยเริ่มต้นทำงาน แต่ไม่ตรงกับทัศนคติของ Z เพราะเชื่อว่าโอกาสของการหาเงินมีเยอะ นอกจากนี้ Z ยังชอบศึกษาหาความรู้ ใช้กูเกิ้ล ดูข้อมูลจาก internet แภมยังเรียนรู้ได้เร็ว

พอร์ตการลงทุนของ Z ก็คล้ายๆ Y คือ เน้นหุ้นได้ถึง 80-90% แต่ด้วยลักษณะนิสัยของ Z การทำให้ Z รู้จักบริหารสภาพคล่องจึงสำคัญมาก

ถ้า Z เป็นคนที่ไม่อยู่สายการเงินก็ต้องกึ่งบังคับให้ลงทุนระยะยาวสม่ำเสมอทุกเดือนผ่านกองทุน ... แต่ถ้า Z เป็นกลุ่มคนที่สนใจการเงิน กลุ่มนี้จะหาข้อมูลมาก อยากลองอยากทำเอง ก็ขอเตือนว่าอย่าซื้อขายหุ้นเองทั้งก้อน เพราะการเล่นหุ้นทุกวันนี้ยากขึ้นมาก ถ้าอยากลองอยากพิสูจน์ ไม่ห้าม แต่ให้แบ่งกองทุนครึ่ง ซื้อขายเองครึ่ง สัก 2-3 ปี แล้วรอดูผล
.

สรุป
-----
การจัดแบ่งพอร์ตลงทุนตาม Generation ก็เหมือนดูดวงเหมาโหลตามราศี มันก็พอใช้เป็นกรอบได้ แต่กุญแจสำคัญคือการวางลัคนาของแต่ละปัจเจกบุคคล ซึ่งคือ “เวลาคงเหลือก่อนที่เราจำเป็นต้องใช้เงินแต่ละก้อนนั้น ไม่ว่าเราจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม”
.

 ที่มา : บลจ.บัวหลวง จำกัด

 


Ozone Pinyo