ราคาน้ำมันดิบลดต่อ หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ หยุดดำเนินการจากความรุนแรงของพายุ Harve
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากความต้องการน้ำมันดิบลดลงหลังโรงกลั่นน้ำมันในประเทศได้หยุดดำเนินการผลิตไปกว่าร้อยละ 24 ของกำลังการผลิตทั้งหมดในสหรัฐ หรือคิดเป็น 4.4 ล้านบาร์เรลของกำลังการผลิตของสหรัฐ โดยพายุเฮอร์ริเคน Harvey ยังคงสร้างความเสียหายใน Texas และ Louisiana ของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยถูกประเมินสถานการณ์ว่าน่าจะใช้เวลาหลายเดือนเพื่อทำการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายไป โดยในรัฐ Texas มีกำลังการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยราว 5.6 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่รัฐ Louisiana มีกำลังการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยราว 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ความรุนแรงของพายุ Harvey ทำให้บริษัทท่อขนส่งน้ำมันในสหรัฐ หลายแห่งหยุดดำเนินการและยังไม่มีที่ท่าจะกลับมาดำเนินการในเร็วนี้ โดยบริษัท Colonial Pipeline ผู้ดำเนินการระบบท่อขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปรายใหญ่ กำลังการขนส่ง 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หยุดดำเนินการขนส่งและคาดจะส่งผลกระทบให้น้ำมันสำเร็จรูปในแถบตะวันออกของสหรัฐ ตึงตัว
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ได้รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ ที่ปรับตัวลดลงประมาณ 5.4 ล้านบาร์เรล ลงมาแตะระดับ 457.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 จากกำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราว 264,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์พายุที่ยังคงมีต่อเนื่อง อาจะทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐ ลดลงไม่มากนักจากโรงกลั่นที่หยุดทำการผลิตลง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาเบนซินในสหรัฐ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐ หยุดดำเนินการผลิตจากพายุ Harvey ประกอบกับความต้องการน้ำมันจากตะวันออกกลางและอินเดียยังคงอยู่ในระดับดี
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์จากศรีลังกาที่มีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังถูกกดดันจากอุปทานในภูมิภาคเอเชียยังคงอยู่ในระดับสูง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ คาดจะปรับลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าจากโรงกลั่นที่คาดจะคงกำลังการกลั่นในระดับสูงต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ส.ค. ปรับลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 59 ที่ระดับ 457.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน
- ผลกระทบจากเฮอร์ริเคน Harvey ที่เคลื่อนที่เข้าชายฝั่งทางทะเลทิศใต้ของรัฐเท็กซัส ส่งผลให้โรงกลั่นในสหรัฐ หยุดดำเนินการผลิตไปกว่าร้อยละ 24 ของกำลังการผลิตทั้งหมดในสหรัฐ โดยในรัฐ Texas มีกำลังการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยราว 5.6 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่รัฐ Louisiana มีกำลังการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยราว 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน
- จับตาการขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐ หลังราคาน้ำมันที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ผู้ผลิตในสหรัฐ ชะลอการขุดเจาะและปรับลดงบลงทุนในปี 2560 ลง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ ปรับลดลง 4 แท่นมาอยู่ที่ 759 แท่น สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ส.ค. 60
Credit: กรุงเทพธุรกิจ
ติดตามบทความและคอร์สสัมมนาเรื่องการลงทุนได้ที่
facebook : สัมมนา stock2morrow
โทร. 090 980 2196
Line@ : @stock2morrow