ห้องเม่าปีกเหล็ก

[ซีรีย์เรื่องยาว] สัญญาณการเก็บหุ้น ตอนที่ 3

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
180 views

ซีรีย์ สัญญาณการเก็บหุ้น โดย ชาย กิตติคุณาภรณ์ ตอน 3

ตอน 2 สอนนักเรียนไปถึงนิสัยและสันดานของคนเล่นหุ้น กับเจ้ามือ ว่ามีความเหมือนและมีความต่างกันอย่างไร ทำให้นักเรียนต้องหันกลับมาคิดวิเคราะห์ถึงการรู้จักและรู้ใจเจ้ามือ ซึ่งในอดีตนักเรียนไม่เคยคิดว่าในตลาดหุ้นมีเจ้ามือ หรือหากจะคิดว่ามีเจ้ามือ นักเรียนก็ไม่ได้เจาะลึกลงไปว่า เจ้ามือต้องมีนิสัยและสันดานอย่างไร ทำให้นักเรียนไม่ได้ตั้งใจที่จะสังเกต เข้าทำนองว่า รู้ไปแล้ว มีอะไรดี แต่หากเรารู้ เราก็สามารถซื้อหุ้นตามเจ้ามือได้

การซื้อหุ้นตามเจ้ามือได้ คือการซื้อหุ้นตอนที่เจ้ามือซื้อ ซึ่งแน่นอนว่า ราคายังไม่ขึ้น และซื้อไปแล้วจะเกิดความรู้สึกเปลี่ยวเหงา หดหู่ใจแบบบอกไม่ถูก มันเป็นการซื้อหุ้นที่โบรกเกอร์ถามว่า ซื้อตัวนี้ไปได้อย่างไร สติปัญญาเราเสียหายตรงส่วนไหน ทำไมจึงซื้อ หุ้นในตลาดมีดีๆ มากมาย ทำไมจึงคิดสั้นปฏิบัติการฆ่าตัวตายแบบนี้ ถ้าเงินเหลือใช้ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ก็เอามาให้ผมก็ได้ ยังดีกว่าการเอาไปซื้อหุ้นตัวนี้

เรื่องการซื้อหุ้นตามเจ้ามือยังไม่จบ มาร์เก็ตติ้งที่ดูแลพอร์ตหุ้นของเรา แอบเอาเรื่องเราไปคุยในวงเหล้า แล้วทุกคำพูดที่เรียกเรา เรียกเราว่า ควาย

การซื้อหุ้นตามเจ้ามือ ถูกมองว่าเป็นควาย สาเหตุเป็นเพราะอะไรนักเรียนรู้หรือเปล่า

สาเหตุเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า เจ้ามือจะเก็บหุ้น จะทำหรือสร้างกิจกรรมอะไร อย่างเจ้ามือไปสร้างกราฟให้สัญญาณทางเทคนิคบอกว่า ขาย ซึ่งคนส่วนใหญ่ถูกป้อนข้อมูลเข้าไปในสมองว่า การเล่นหุ้นด้วยข้อมูลทางเทคนิค (กราฟ) เป็นอะไรที่ทำให้คนเล่นหุ้นรวยได้ คนเล่นหุ้นที่ไม่เข้าใจและไม่รู้จักนิสัยและสันดานเจ้ามือก็จะปฏิเสธ ไม่ยอมซื้อหุ้น ตอนที่สัญญาณทางเทคนิค (กราฟ) บอกให้ขายแน่นอน เพราะถ้าไปฝ่าฝืนเครื่องมือทางเทคนิคที่สั่งห้ามไว้ ก็ต้องเป็นควายสถานเดียว จะเป็นคนไปได้อย่างไร

ความเชื่อเครื่องมือทางเทคนิค (กราฟ) ของคนส่วนใหญ่ จึงทำให้เจ้ามือทุกราย (ผมใช้คำว่าทุกราย) ต้องสร้างกราฟเพื่อส่งสัญญาณขายตลอดเวลา เพื่อจะได้เก็บหุ้นจากรายย่อยให้ได้มากๆ

การเก็บหุ้น เก็บกันอย่างไร ผมได้บอกนักเรียนไปแล้วในตอนที่ 2 (4/2/58) ขอให้กลับไปอ่านทบทวนดู

สัญญาณของการเก็บหุ้น ที่ต้องเกิดแน่ คือ ปริมาณการซื้อขายหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติ และการผิดปกติ ใช้อะไรเป็นตัววัด

คำตอบก็คงหนีไม่พ้นการเฝ้าดูชายหนุ่มและหญิงสาวนั่งกินข้าว กินไวน์ และกินเบียร์กัน ซึ่งสุดท้ายเกิดคำตอบขึ้นมาในใจว่า สองคนนี้กำลังจะทำอะไรบางอย่างให้เกิดขึ้น ทำให้เห็นภาพว่า ต่อจากนี้หลังเที่ยงคืน อะไรจะเกิดขึ้น

คำตอบที่เกิดขึ้นจากการเฝ้าดู จะเกิดในลักษณะที่ว่า กูว่าชัวร์ โดยกูก็คือคนข้างใน (จิต) บอกคำตอบออกมาเป็นความรู้สึก

เมื่อกูว่าชัวร์ จึงขับรถตามไปดู ก็เห็นรถเลี้ยวเข้าไปในโรงแรม

เหมือนกับการเฝ้าดูหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายที่ผิดปกติ จะทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ แบบไม่ต้องไปหาว่า แบบไหนจึงจะเป็นการเก็บหุ้น ที่ทำให้เกิดคำถามว่า แบบนี้เก็บหรือเปล่า

ที่ไม่เกิดคำถามเป็นเพราะอะไร นักเรียนตอบได้หรือเปล่า

ตอบได้ ถ้านักเรียนใช้หลักการมองชายหนุ่มและหญิงสาวที่ยกตัวอย่างมาตั้งแต่ตอนที่ 1 ว่าผลของการมองทำให้เกิดคำตอบได้ 3 ทาง และการมองที่เกิดคำตอบในแต่ละทาง เป็นเพราะนักเรียนเคยผ่านประสบการณ์แบบชายหนุ่ม หรือเคยผ่านประสบการณ์แบบหญิงสาวที่มีเวทนา (ความรู้สึก) บงการให้นักเรียนแสดงออก ว่าถ้ากินอาหารกับเพื่อน นักเรียนออกอาการอย่างไร ถ้ากินอาหารกับพี่น้อง นักเรียนออกอาการอย่างไร และถ้ากินอาหารกับคนพิเศษ คนที่นักเรียนอยากมีอะไรด้วย นักเรียนจะออกอาการอย่างไร

สรุปความว่า ที่นักเรียนรู้คำตอบว่าจะออกทางใด ไม่ทาง 1 ก็ทาง 2 ไม่ทาง 2 ก็ทาง 3 (กลับไปอ่านตอนที่ 1 วันที่ 2/2/58) เป็นเพราะนักเรียนมีจิตวิญญาณร่วมไปกับชายหนุ่ม ถ้านักเรียนเป็นผู้ชาย และมีจิตวิญญาณร่วมไปกับหญิงสาว ถ้านักเรียนเป็นหญิงสาว นักเรียนจึงดูแล้วรู้สึกขึ้นมาทันทีว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตอันใกล้

การมีจิตวิญญาณร่วมเป็นหัวใจของการที่คนเล่นหุ้นจะรู้ขึ้นมาเอง ถ้านักเรียนมีจิตวิญญาณของเจ้ามือ เมื่อนักเรียนดูการซื้อขายหุ้นด้าน BID และ OFFER และเห็นปริมาณการซื้อขายหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแบบมีนัยสำคัญ ทำให้ความรู้สึกในใจของนักเรียนเหมือนถูกรถสิบล้อพุ่งเข้าใส่ นักเรียนก็จะทำการดู BID และ OFFER และปริมาณการซื้อขายของหุ้นตัวนั้นต่อไปอีกหลายวัน หลายอาทิตย์ จนถึงหลายเดือน พาให้เกิดคำตอบขึ้นว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป โดยก่อนอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ในใจของนักเรียนจะได้ยินเสียงประโยคที่ว่า กูว่าชัวร์

ชัวร์อะไร อยากถามนักเรียน

ชัวร์ว่ามันเก็บหุ้น 1,000,000%

อะไรที่จะเกิดต่อ อยากถามนักเรียน

ราคาหุ้นที่จะวิ่งแบบบ้าเลือดไงล่ะ ซึ่งจะทำให้นักเรียนรวยเละเป็นร้อยๆ เปอร์เซ็นต์

มาร์เก็ตติ้งที่เคยหัวร่อกันอย่างสนุกสนานในวงเหล้า ที่เคยเรียกนักเรียนว่า ควาย มาวันนี้เงียบยังกะเป่าสาก เพราะควายกลายเป็นเศรษฐี แต่ไอ้ที่ไม่ควาย กินเงินเดือนต่อไปแบบไร้อนาคต มันกลับไปคุยกันในวงเหล้าอีกครั้ง แล้วพูดว่า แม่งฟลุ๊ค

ปิดท้าย ขอย้ำนักเรียนว่า ถ้ารู้จักนิสัยและสันดานของเจ้ามือ หรือที่ผมชอบพูดเสมอว่า รู้จักและมีจิตวิญญาณของเจ้ามือ นักเรียนจะรู้ขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติว่า นี่เก็บหุ้นชัวร์ มันเป็นการรู้ที่รู้ขึ้นมาเอง ที่เป็นพลังอำนาจของสัญชาติญาณ ที่ถ้าหากใครศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าดีๆ จะรู้ว่า เมื่อรู้จักตัวเอง ก็รู้จักคนอื่น เมื่อรู้ว่าหากตัวเองจะเก็บหุ้นให้มากที่สุด เพื่อจะลากราคาหุ้นให้ขึ้นสูงลิ่วในอนาคต เพื่อจะโกยกำไรมหาศาล ตัวเองในฐานะเจ้ามือจะต้องทำอะไรบ้าง แค่นี้การดูหุ้นทุกวัน ก็จะง่ายเหมือนการดูชายหนุ่มและหญิงสาวนั่งกินข้าวกัน ว่าสุดท้ายแล้วจะออกทาง 1 ทาง 2 หรือทาง 3

ครั้งหน้ามาต่อตอนจบครับ เพราะรู้ว่าเก็บหุ้นชัวร์อย่างเดียวไม่พอ ยังจะต้องรู้เพิ่มด้วยว่า เจ้ามือจะลากหุ้นด้วยการใช้ Story อะไรมาลาก


คนเล่นหุ้น