นักลงทุนที่ดีต้องไม่หยุดนิ่งในการเดินหน้าแสวงหาโอกาส
การขับเคลื่อนของตลาดหุ้นบ้านเราขณะนี้เริ่มเกิดอาการกล้า ๆ กลัว ๆ หลังจากที่ทิศทางหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นมาในระดับเหนือกว่า 1,700 จุด แล้วมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระลอก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของตลาด เมื่อผู้ที่มีต้นทุนต่ำที่เก็บหุ้นไว้ก่อนหน้าต้องการขายทำกำไรในระยะสั้นออกมาก่อนหลังแนวโน้มตลาดน่าจะยังไปไหนไม่ได้ไกลนักเพราะขาดปัจจัยหนุน อีกทั้งใกล้เดือนสุดท้ายของปีที่จะมีวันหยุดเยอะ นักลงทุนบางส่วนก็จะเบาพอร์ตชะลอการลงทุนลงในช่วงนี้ เพื่อเตรียมตัวไปท่องเที่ยวพักผ่อนหยุดยาวหลังจากสู้กับหุ้นมาตลอดทั้งปันบ้างแล้ว สังเกตุจากวอลุ่มการซื้อขายรวมเริ่มเบาบางลง
แต่สิ่งที่สำคัญคงต้องดูกันครับว่าดัชนีจะสามารถประคองสู้ยืนหยัดได้ดีมากน้อยเพียงใด เม็ดเงินใหม่ที่คาดว่าจะมาจากกองทุน LTF และ RMF ที่มีเข้ามาจะสามารถต้านทานแรงขายที่เกิดขึ้นนี้ได้หรือไม่ ทั้งหลายทั้งปวงนี้คงต้องไปดูกันถึงปัจจัยที่จะสนับสนุน ว่าจากนี้ไปปัจจัยหนุนเชิงบวกทั้งจากภายนอกและภายในประเทศจะมีเข้ามาต่อเนื่องหรือไม่
ในมุมมองของเหล่านักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์สำนักต่างๆ เท่าที่เห็นกันในตอนนี้ก็ยังมีคำแนะนำในเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยยังให้น้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงปลายปียังมีโอกาสยืนเหนือ 1,700 จุดได้และยังสามารถไปสู่เป้าหมายในปีหน้าที่ระดับ 1,800 – 2,000 จุดได้อยู่ จากความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจประเทศไทยจะยังคงขยายตัวได้ดีและผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ต่อเนื่อง
การทะยานขึ้นมาของ Set Index เกือบ 200 จุด ในปีนี้ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจของเรากำลังฟื้นกลับมา ด้วยหลายปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่ากิจการต่างๆ จะสามารถทำกำไรได้ดีกว่าอดีตที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามยังมีตัวแปรที่ถือว่ามีอิทธิพลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอย่างมากประการหนึ่งคือ พฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนมือใหญ่อย่างต่างชาติ แม้ช่วงนี้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่อง แต่ต่างชาติก็ยังไม่มีสัญญาณลงทุนหุ้นไทยชัดเจนนัก แต่เนื่องด้วยอัตราผลตอบแทนจาการลงทุนในรูปแบบอื่นๆยังไม่คุ้มค่าเท่าตลาดหุ้น เม็ดเงินทุนต่างชาติอีกจำนวนมากก็พร้อมที่จะหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นบ้านเราได้ตลอดเวลาเช่นกัน
แต่ด้วยภาวะของตลาดหุ้นในขณะนี้ที่วนเวียนเคลื่อนไหวในกรอบแบบนี้อาจจะทำให้นักลงทุนทั่วไปโดยเฉพาะรายย่อย จะรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้อง เพราะเกรงว่าทิศทางตลาดหุ้นบ้านเราจะเกิดการอ่อนย่อทรุดลงแรง แล้วขายกันไม่ทัน รวมทั้งผู้ที่กำลังหวังลุ้นรอเท่าทุนจากที่ติดหุ้นในที่สูงมานาน ก็หวั่นเกรงว่าหุ้นตกแล้วจะทำให้เกิดความเสียหาย แต่บนความเป็นจริงที่เห็นที่ปรากฏอยู่ ตลาดก็ยังไม่ได้มีแนวโน้มทิศทางที่ดูแย่ ในทางตรงข้ามยังน่ามีโอกาสขับเคลื่อนเดินหน้าไปต่อได้ แม้บางจังหวะจะมีการพักปรับฐานกันบ้างก็ตาม แต่แนวโน้มในภาพใหญ่ก็ยังเป็นขาขึ้นอย่างที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เค้าได้มองกัน
ดังนั้นในช่วงนี้นักลงทุนที่ยังไม่ค่อยมั่นใจกับภาพรวมของตลาด ก็คงต้องสรรหาวิธีที่ทำอย่างไรเช่นใดถึงจะไม่พลาดโอกาส สำหรับการลงทุนในทุกสถานการณ์ หากยังไม่มั่นใจตลาด และภาพตลาดที่พร้อมพลิกผันได้ตลอด ก็เริ่มด้วยกลยุทธ์ทั่วไปใช้การค่อยๆแหย่เท้าเข้าเก็บหุ้นเป้าหมายเข้าพอร์ตเล็กๆน้อยๆก่อน หากซื้อแล้วราคามีการไต่ตัวขึ้นก็ค่อยทยอยเก็บสะสมเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆไม่ต้องกังวลว่าราคาต้นทุนเราจะสูงตามตราบจนที่ราคายังขึ้นต่อ ก็จะทำให้พอร์ตของเรามีทิศทางที่ดีตามไปด้วย ความเชื่อมั่นความมั่นใจก็จะเกิดเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย หากหุ้นนั้นเกิดมีการเปลี่ยนแนวโน้มเราก็ค่อยเททิ้งหุ้นในพอร์ตออกมาให้เกลี้ยง เช่นนี้เราก็จะสามารถทำกำไรจากหุ้นที่เราร่วมพัวพันอยู่โดยที่ไม่ตกรถครับ นักลงทุนที่ดีต้องไม่หยุดนิ่งในการเดินหน้าแสวงหาโอกาส หมั่นแสวงหาความรู้ ฝึกจิตใจให้แข็งแกร่ง มีสติและเหตุผล ปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เข้าได้กับทุกสถานการณ์ครับ
สรุปแล้วตลาดหุ้นในภาพรวมถือว่าไม่ได้ดูแย่ เพียงแต่ตลาดยังรอคอยปัจจัยสนับสนุนที่จะชี้นำให้ตลาดขับเคลื่อนเดินหน้าต่อ มองว่าเป็นภาวะตลาดที่น่าจะแหย่เข้าลงทุนเก็งกำไรได้บ้างจากหุ้นที่มีผลประกอบการออกมาดี แต่หากยังไม่มีความมั่นใจก็ เฝ้าติดตามกระแสข่าวสารต่างๆ ค่อยๆเรียนรู้กันไป สั่งสมประสบการณ์ทั้งจากตัวเองและเรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาต่อยอดความคิด ปรับปรุง ค้นหาแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมกับการลงทุนของเราให้ประสบความสำเร็จต่อไปครับ