ห้องเม่าปีกเหล็ก

ออมหุ้น “เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี” พื้นฐานแน่นปึ้ก 

โดย Mansum
เผยแพร่ :
64 views

 

 

ออมหุ้น “เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี” พื้นฐานแน่นปึ้ก 

 

 

          เชื่อว่านักลงทุนหลายคนเริ่มลงทุนครั้งแรกด้วยหุ้นใน “เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี” เพราะมองว่าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีเครือข่ายธุรกิจหลากหลาย สามารถสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่องทุกปี ซึ่งน่าจะเป็นหุ้นที่สามารถฝากความหวังไว้ได้ โดยเฉพาะนักลงทุนบางคนอาจเริ่มลงทุนแบบ DCA ด้วยหุ้น CPALL และ CPF ซึ่งก็มีหลายบริษัทหลักทรัพย์เคยให้คำแนะนำว่าเป็นหุ้นในพอร์ต DCA ที่เลือก แต่ผลตอบแทนที่ได้จะดีอย่างที่คิดหรือไม่   ขอบคุณทาง  Wealthy Thai นำข้อมูลหุ้นในเครือเจริญโภคภัณฑ์ 4 ตัว เพื่อประกอบผลการตัดสินใจของนักลงทุนหุ้นหน้าใหม่ 

 

          เริ่มที่หุ้นตัวแรก CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  แม้มีราคาแกว่งตัวค่อนข้างมาก เคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 39.00 บาท ในวันที่ 4 ม.ค. 2559 ก่อนฟื้นตัวและปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 90.00 บาท ในวันที่ 27 มี.ค. 2561 ถือว่าระดับราคานั้น ยังคงไม่ทำให้สถานการณ์ของผู้ถือหุ้นหวั่นไหว ยังคงมีการถือครองไว้อยู่  รวมถึงการออกจำหน่ายหุ้นกู้ของ CPALL ครั้งใด ก็ขายหมดเสมอ   สำหนับแนวโน้มธุรกิจของ CPALL ในปี 2564 บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า ธุรกิจยังคงถูกกดดันในระยะสั้น จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบใหม่ แต่บริษัทยังมีความแข็งแกร่งจากช่องทางการขายที่หลากหลาย การขยายฐานลูกค้าในกัมพูชาและสปป.ลาว รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากเทสโก้ที่จะช่วยหนุนผลประกอบการในระยะยาวอีกด้วย


          ต่อมา หุ้นตัวที่สอง CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นอีกตัวที่ฮอตไม่แพ้ CPALL และอยู่ในจอเรดาห์ของนักลงทุนเสมอ ปัจจุบัน มีกำไรเพิ่มขึ้น  +6.48% และได้รับเงินปันผล 20,487.55 บาท  สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2564 ของ CPF ยังเติบโตได้ดี โดย บล.หยวนต้า ระบุว่า หากประมาณการกำไรไตรมาส 4/63 ของเราเป็นจริงจะทำให้กำไรปี 2563 อยู่ที่ 23,575 ลบ. สูงกว่าคาดการณ์เดิม 10% ขณะที่ปี 2564 ยังคงประมาณการเดิมที่ 23,416 ลบ. ซึ่งมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก เนื่องจากยังไม่รวมส่วนแบ่งกำไรจากฟาร์มหมูในจีน และ Lotus อีกทั้งยังคาดราคาหมูในประเทศไว้ที่เพียง 70 บาทต่อก.ก. และหมูเวียดนามที่ 70,000 ดองต่อก.ก.


          หุ้นอีกตัวที่สนใจกลุ่มโทรคมนาคม  และจะได้อนิสงค์จาก 5G  ในอนาคต ก็คือ  TRUE หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมครบวงจรรายใหญ่ของไทย มูลค่าของหุ้น TRUE อยู่ ปัจจุบันได้รับเงินปันผล 7,034.78 บาท ส่วนแนวโน้มธุรกิจในปี 2564 บล.หยวนต้า ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวกในปี 2564 โดยนักลงทุนควรใช้จังหวะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/63 อ่อนแอเป็นโอกาสในการสะสม ประเมินเบื้องต้นกรอบราคาเหมาะสมใหม่ของอยู่ที่ราว +/-4.50 บาทต่อหุ้น  แม้จะมีความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง การลงทุนในคลื่นเพิ่มเติมอีกโดยไม่จำเป็น นั้น  ก็ถือว่า การลงทุนนี้ตอบโจทย์ตลาด 5G ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววัน 


            สุดท้าย MAKRO หรือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ศูนย์จำหน่ายสินค้าขวัญใจมิตรแท้ของโชห่วย  ปัจจุบันจะมีกำไร +0.90% และได้รับเงินปันผล 18,798.82 บาท  ขณะที่แนวโน้มการเติบโตในปีนี้ บล.กรุงศรี ระบุว่า แม้ว่าการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (sssg) จะลดลงในเดือนประมาณ 6-7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  เชื่อว่านี่เป็นผลกระทบระยะสั้นจากข้อจำกัดการเดินทางในไทยและสถานการณ์ของโควิด19  ส่งผลต่อการกักตุนสินค้า คาดการณ์ส่งผลในกำไรต่อไปได้ในอนาคต 


            อย่างที่เคยย้ำเสมอว่า นักลงทุนต้องหมั่นตรวจสอบหุ้นที่ออมสม่ำเสมอ รวมถึงประเมินความเสี่ยงและแนวโน้มการเติบโตทุกไตรมาส เพราะหากมีความเสี่ยงจะได้ปรับเปลี่ยนการลงทุนได้อย่างทันเวลา

 

cr.wealthythai

-----------------------------------------------------------------


Mansum