ผู้โพสต์ขอทบทวนทิศทางการลงทุนในอีก 3 - 4 ปี ข้างหน้า อีกครั้งหนึ่งดังต่อไปนี้ :
1) การลงทุน : ลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย โดยมีต้นทุนของ Cons Index ที่ 118.60 จุด ซึ่งในขณะนั้น Set Index อยู่ที่ 1,561 จุด เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปี พ.ศ 2560 และถือไปขายในช่วงปลายปี พ.ศ 2563 เนื่องจากคาดว่าโครงการโครงสร้างพื้นฐานของไทย 3 ล้านล้าน บาท น่าจะมีการประกวดราคาเข้มข้นขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงปี พ.ศ 2565
2) ทิศทางตลาด : คาดการณ์ว่า Set Index น่าจะเป็นขาขึ้นรอบใหญ่จากนี้ไปจนถึงปี พ.ศ 2564 ตามทิศทางของ Downjones สาเหตุเพราะเงินทุนไหลออกจากตลาดตราสารหนี้มายังตลาดหุ้น เนื่องจาก Fed Fund Rate มีแนวโน้มปรับตัวจาก 1.00 - 1.25% ในปัจจุบัน ไปเป็น 4.00 - 4.25% ใน ปี พ.ศ 2564 อีกทั้งการอัดฉีดสภาพคล่องของทั้ง ECB และ ญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะลดลงและคาดว่าจะยุติลงภายใน 2 - 3 ปี ข้างหน้า
3) ถ้าการคาดการณ์และการลงทุนในครั้งนี้ถูกต้องและประสบผลสําเร็จ ผู้โพสต์ขอยกคุณงามความดีให้กับ 2 ท่านดังนี้ :
3.1) วอเร็น บัฟเฟตต์ จากปรัชญา 2 ข้อ คือ :
3.1.1) ปรัชญาข้อที่ว่า " จงโลภเมื่อคนอื่นกลัว " จึงน่าจะทําให้ลงทุนด้วยต้นทุนที่ถูกที่ Cons Index ที่ 118.60 จุด และที่ Set Index ที่ 1561 จุด ในวันที่ 11 สิงหาคม ปี พ.ศ 2560
3.1.2) ปรัชญาข้อที่ว่า " จงลงทุนแบบมุงเน้นโดยเลือกไข่สวยๆไม่กี่ฟองแล้วดูแลมันอย่างดีเหมือนกับแม่เหยี่ยวดูแลไข่ " การลงทุนครั้งนี้มุงเน้นเฉพาะ ลงทุนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแต่เพียงอย่างเดียว
3.2) จิม โรเจอร์ จากปรัชญาที่ว่า " ความสําเร็จในการลงทุนนั้นวัดได้จาก วิจารณญาณหรือความสามารถในการคาดคะเนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคต " การคาดคะเนในครั้งนี้เป็นการคาดคะเนการเปลียนแปลงครั้งใหญ่ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย, ทิศทางของ Set Index และ Downjones ในอีก 3 -4 ปีข้างหน้า
4) สรุปผลการลงทุน จะมีการสรุปผลการลงทุนดังนี้ :
4.1) สรุปความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานประจําเดือนพร้อมกับผลตอบแทนทั้ง Cons Index และ Set Index ณ จุดปิดสิ้นเดือนโดยเปรียบเทียบกับ 118.60 จุด และ 1,561 จุดตามลําดับ จะสรุปทุกเดือน ใน Webboard ของ Stock2morrow แห่งนี้
4.2) สรุปความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานประจําวันและประจําสัปดาห์ จะสรุปใน longtunbysak.blogspot.com
ขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าที่ให้ความสนใจติดตาม