อนิจจาเศรษฐกิจไทย
คอลัมน์ สามัญสำนึก
โดย สมปอง แจ่มเกาะ
ช่วงนี้เศรษฐกิจขาลง
ทั้งเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจไทย ต่างก็ยอบแยบไปตาม ๆ กัน กว่าจะฟื้นตัวผงกหัวขึ้นมาได้คงใช้เวลานานโข
สำหรับประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น ฯลฯ เขาคงเอาตัวรอดไปได้ ไม่น่าห่วง
เป็นห่วงแต่สยามเมืองยิ้มของเรานี่แหละ ไม่ต้องอื่นไกลอะไร ตอนนี้แทบจะไม่มีใครยิ้มออกกันแล้ว ส่วนคนที่ยังยิ้มได้ก็จะเป็นยิ้มแห้ง ๆ
มนุษย์เงินเดือน ประชาชนตาดำ ๆ ต่างตกอยู่ในภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องกระเบียดกระเสียน ใช้จ่ายอย่างประหยัด
ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นทุกวี่วัน แต่รายได้เท่าเดิม จึงมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
จึงไม่แปลกที่จะเห็นภาพคนแย่งสมัครลงทะเบียนชิม ช้อป ใช้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อจะให้ได้เงิน 1,000 บาท มาช่วยแบ่งเบาภาระ
พอเงิน 1,000 บาทที่รัฐบาลแจกให้มาฟรี ๆ หมด ทุกอย่างก็กลับเข้าอีหรอบเดิม
ยิ่งช่วงหลัง ๆ มานี้ ข่าวโรงงานลดเวลาการทำงาน ลดการทำงานล่วงเวลา (โอที) ปลดคนงานเลิกจ้างงาน มีให้เห็นให้ได้ยินบ่อยขึ้นหนาหูมากขึ้น มีทั้งที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และที่ไม่เป็นข่าวก็มีอีกไม่น้อย
ขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นภาพที่กระจายเป็นวงกว้างไปในหลาย ๆ จังหวัด ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ฯลฯ
ต้องยอมรับว่าวันนี้ สถานการณ์หนักขึ้นเรื่อย ๆ ชาวบ้านร้านตลาด คนทำมาค้าขาย ทุกคนต่างส่ายหน้าไปตาม ๆ กัน
ก่อนลงมือปิดต้นฉบับ ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนทางโทรศัพท์ เธอเป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง หลังคุยธุระเสร็จ ตามต่อด้วยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบและตบท้ายที่กิจการร้านอาหาร
เธอบอกด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ เบื่อ ๆ ว่า “…ช่วงนี้ขายไม่ค่อยดี ยอดลดลง 50% เห็นจะได้ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ตอนนี้คนเขาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างระมัดระวังและประหยัด ส่วนบริษัทต่าง ๆ ก็ลดงบฯเอ็นเตอร์เทน”
เมื่อร้านอาหารยอดขายตก คนขายผักขายปลาหมูเห็ดเป็ดไก่ ผลไม้ เครื่องดื่ม ขนมหวาน ฯลฯ ก็คงขายได้น้อยลงเช่นกัน กระทบกันเป็นทอด ๆ
ครับ…ได้แต่เป็นกำลังใจให้เพื่อน ให้สู้ ๆ กันต่อไป
ว่ากันว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ปีหน้าจะหนักขึ้น จะแรงขึ้นกว่านี้อีก
ถึงวันนั้นคงไม่เฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ไปแล้วเท่านั้น วันข้างหน้าภาพการลดพนักงานในรูปแบบต่าง ๆ การยุบสาขาของบรรดาธนาคารพาณิชย์ หรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็คงจะมีให้เห็นอยู่เนือง ๆ
เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกันให้ดี
ยังไม่ต้องมองไปไกลถึงปีหน้าฟ้าใหม่ วันนี้นอกจากปัญหาการว่างวาง คนตกงาน ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างที่รู้ ๆ กันดีว่า ตอนนี้ตัวเลขหนี้ครัวเรือนของประเทศที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและใกล้จะแตะ 80% ของจีดีพี
หาก 2 ปัญหานี้มารวมตัวกันเมื่อไหร่ก็คงจะดูไม่จืด
เมื่อตกงาน ไม่มีงานทำ รายได้ก็ไม่มี เงินก้อนเล็ก ๆ ตามกฎหมายแรงงานที่ได้ติดกระเป๋าออกมาจะอยู่ได้สักกี่วัน
คนที่ยังมีภาระต้องผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดฯ ผ่อนอื่น ๆ อีกจิปาถะ ทั้งมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หนี้บัตรเครดิต หนี้เพอร์ซันนอลโลน ฯลฯ คงจะเหนื่อยหน่อย และต้องคิดหนักว่าจะหาเงินที่ไหนมาผ่อนต่อ หรือควรจะทำอย่างไรดี
ล่าสุด ก็เริ่มเห็นภาพของบรรดาแบงก์-น็อนแบงก์ ตามทวงหนี้หนักขึ้น และไม่แปลกที่จะเริ่มเห็นภาพของหมายศาลที่แปะปิดอยู่ตามหน้าบ้านมากขึ้นเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าผมจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย
แต่…ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครเสียอีกนะครับ
อนิจจา….วัฏจักรของเศรษฐกิจไทย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก