ห้องเม่าปีกเหล็ก

กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในครึ่งปีแรก

โดย Yoo
เผยแพร่ :
74 views

กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในครึ่งปีแรก

 

ครึ่งปีเงินเข้า "เอฟไอเอฟ" 1.63 แสนล้าน ดันสินทรัพย์กองทุนรวมทั้งระบบโต 4.82% 

 

               มอนิ่งสตาร์ เผยกองทุนรวมครึ่งปีแรกโต 4.8% ดันสินทรัพย์รวมแตะ 4.82 ล้านล้าน ขณะครึ่งปีแรกเงินไหลเข้า 1.38 แสนล้าน ชี้เงินส่วนใหญ่ไหลเข้ากองเอฟไอเอฟกว่า 1.63 แสนล้าน  ภาพอุตสาหกรรมกองทุนไทยครึ่งแรกของปีนี้ ยังเติบโตต่อเนื่องที่ 3.64% ทำให้ยอดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทยมาปิดที่ 4.82 ล้านล้านบาท โดยนักลงทุนเริ่มส่งสัญญาณลงทุนเพิ่มในไตรมาส 2 นี้

 

               สำหรับช่วงครึ่งแรกของปีนี้ กองทุนรวมทั้งอุตสาหกรรมมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิประมาณ 138,282 ล้านบาท โดยที่นักลงทุนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจต่อการไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศมากกว่าลงทุนในประเทศไทย โดยมีเงินไหลไปลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) สุทธิ คิดเป็น 163,155 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนขายสินทรัพย์ในประเทศออกรวมกว่า 24,873 ล้านบาท

 

                หากมองในภาพรวมแล้วนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ยังความนิยมลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงหรือเน้นการลงทุนแบกระจายความเสี่ยง ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความระมัดระวังในการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี  โดยกองทุนประเภท Foreign Investment Bond Fix Term, Global Bond โดยเฉพาะกองทุนจำพวก Global Income และ Short Term Bond นั้น ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

 

 

 

               ในทางกลับกันความกังวลต่อสถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้จำพวกตั๋ว B/E ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนต่อการลงทุนในตราสารดังกล่าวเป็นผลให้ปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนในกลุ่มดังกล่าว (High Yield Bond) นี้มีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือเพียงไม่ถึง 90,000 ล้านบาท จากที่เคยสูงสุดกว่า 520,000 ล้านบาทในปี 2558

 

                ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่าเกือบทั้งหมดเป็น กลุ่มกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลางทั้งสิ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ลงทุนนั้นยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์การลงทุนอยู่มาก เช่นเดียวบลจ. ปรับกลยุทธ์จากกองทุนเทอมฟันด์มาเป็นกองทุนAI (ขายเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่) มากขึ้น โดยกองทุน AI ดังกล่าวถือว่ามีการกระจายตัวที่ดีกว่า แต่การเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลการลงทุนอาจให้เวลาประมาณหนึ่ง และแนวโน้มการลงทุนผ่านกองทุนรวมช่วงครึ่งปีหลังน่าจะยังเช่นเดิมเหมือนครึ่งแรกปีนี้

 

                  ในส่วนของผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เกือบทุกกลุ่มกองทุนสามารถทำผลตอบแทนเป็นบวก ได้ทั้งหมด โดยที่กลุ่มกองทุนที่สามารถทำผลตอบแทนได้ดีในช่วงครึ่งแรกของปีนี้นั้นล้วนแต่เป็นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศทั้งสิ้นนำมาโดยกองทุนกลุ่ม Asia Pacific ex-Japan Equity, กลุ่ม China Equity และ กลุ่ม Global Health Care ที่สามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงถึง 15.46%, 14.07% และ 13.42% ตามลำดับ  ยกเว้นแต่กลุ่มกองทุนน้ำมัน (Commodities Energy, -19.14%) และกลุ่มกองทุนที่เน้นลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ (Property Indirect, -1.64%) เท่านั้นที่มีผลตอบแทนติดลบ

 

                    ขณะที่กลุ่มหุ้นไทยทั้งกลุ่ม Equity Large Cap และ Equity Small/Mid Cap ยังคงมีความผันผวนอยู่มากส่งผลให้ทำผลตอบแทนได้เพียงเฉลี่ย 3.50% และ 1.76% ตามลำดับ อีกทั้งความแตกต่างระหว่างกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้สูงที่สุดกับต่ำที่สุดนั้นก็ต่างกันมากเช่นเดียวกันโดยที่สูงสุดของกลุ่ม Equity Large Cap ทำได้ที่ 17.81% ขณะที่ต่ำสุดทำได้ -2.67% และกลุ่ม Equity Small/Mid Cap สูงสุดของกลุ่มทำได้ 14.67% และต่ำสุดทำได้ -7.41%

 

 

 

 

 

อ้างอิง : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


Yoo