SAK : การประเมินมูลค่าหุ้นน่าสนใจ แม้การเติบโตช้าลง
• มุมมองเชิงลบเล็กน้อย เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เราได้จัดงาน KS C-Series โดยเชิญผู้บริหาร SAK มาเป็นวิทยากรรับเชิญ ผู้บริหารแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยระบุว่าการเติบโตของสินเชื่อคาดว่าจะชะลอตัวลง ทำให้การบรรลุเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2568 โดย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 15% YoY เป็นเรื่องท้าทาย นอกจากนี้ ผู้บริหารยังคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะเสื่อมลงในทุกกลุ่มสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อไม่มีหลักประกัน ดังนั้น เราจึงมีมุมมองเชิงลบเล็กน้อยต่อทั้ง SAK และกลุ่มการเงินหลังจากการประชุม หากมองในแง่บวก SAK กว่าว่ามีโอกาสเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลในช่วงที่การเติบโตลดลงนี้
• คาดกำไรไตรมาส 2/2568 จะเติบโตต่อเนื่อง เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 3.5% QoQ ในไตรมาส 2/2568 หากอิงตามข้อมูลของผู้บริหาร การเติบโตของสินเชื่อไตรมาส 2/2568 แข็งแกร่งกว่าในไตรมาส 1/2568 (+1.3% QoQ) โดยได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลเพาะปลูก ซึ่งช่วยผลักดันให้ความต้องการสินเชื่อจากเกษตรกร (ฐานลูกค้าหลักของ SAK) เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริหารยังคาดว่าจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (opex) ได้ดีขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยกลยุทธ์การลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินทรัพย์คาดว่าจะเสื่อมลง โดยจะเห็นได้จากสินเชื่อชั้นที่ 1 ลดลง 50–100 bps และเปลี่ยนเป็นสินเชื่อชั้นที่ 2 และหนี้เสีย (NPL) ขณะเดียวกัน SAK คาดว่าจะรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) จำนวน 13-15 ลบ. ในไตรมาส 2/2568 และ 5-10 ลบ. ในไตรมาส 3/2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยุบบริษัท ศักดิ์สยาม เมกเกอร์ โดรน จำกัด
• แนวโน้มครึ่งหลังของปี 2568 ยังไม่สดใส เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะชะลอตัวลงและคุณภาพสินทรัพย์จะอ่อนแอลงในครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มกำไรของทั้ง SAK และกลุ่มการเงินโดยรวม อุปสรรคสำคัญเกิดจากสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอ รวมถึงการเติบโตของ GDP ที่ต่ำ ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง ราคาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ลดลง และกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ซบเซา โดย ณ ปัจจุบัน SAK กำลังดำเนินการแก้ไขเป้าหมายปี 2568 แต่ผู้บริหารระบุว่าเป้าการเติบโตของสินเชื่อใหม่ไม่น่าจะลดลงต่ำกว่า 10% YoY เมื่อเทียบกับเป้าหมายปัจจุบันที่ 15% YoY
• ปรับประมาณการกำไร เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-70 ลง 0.7% 5.8% และ 8.1% จากการปรับลดสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อปี 2568-70 ลงเป็น 7.7% 10.4% และ 10.4% (จาก 11.5% 13.7% และ 13.7%) แต่ปรับเพิ่มประมาณการค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) เป็น 1.75% 1.7% และ 1.7% (จาก 1.44% 1.44% และ 1.44%) อย่างไรก็ตาม การปรับลดประมาณการกำไรถูกชดเชยโดยอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง 52.2% 52.3% และ 52.2% (จาก 54.5% 55.2% และ 55.2%) เพื่อสะท้อนประสิทธิภาพในการลดต้นทุนตาม โดยเห็นได้จาก opex ไตรมาส 1/2568 ที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มประมาณการอัตราการจ่ายเงินปันผลเป็น 50% (จาก 40%)
• แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 4.40 บาท แม้จะมีแนวโน้มที่อ่อนแอลง แต่เรายังคงชอบ SAK เนื่องจากมีการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน
