ห้องเม่าปีกเหล็ก

รอทรัมป์เซ็นจบภาวะ shutdown

โดย บุปผาวดี
เผยแพร่ :
41 views

ส.ส. อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเรียบร้อย รอทรัมป์เซ็นจบภาวะ shutdown

ล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 222 ต่อ 209 และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เตรียมลงนาม ซึ่งจะถือเป็นการยุติภาวะ Shutdown อย่างเป็นทางการ

แต่เดี๋ยวก่อน... อย่าเพิ่งดีใจไปค่ะว่าทุกอย่างจะกลับมาปกติในพริบตา เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ทิ้งบาดแผลไว้เยอะ และที่สำคัญ มันยัง "ไม่จบจริง" ค่ะ

 

 

กว่าจะกลับมาเดินเครื่องได้... ไม่ใช่ง่ายๆ

แม้สภาจะผ่านกฎหมายแล้ว แต่การที่จะให้ระบบราชการขนาดมหึมาของสหรัฐฯ กลับมาทำงานเต็มรูปแบบอีกครั้ง ต้องใช้เวลาหลายวันเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ อย่างการบิน นายฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม บอกว่า อาจต้องรอถึงหนึ่งสัปดาห์ กว่าจะเริ่มยกเลิกข้อจำกัดการบินที่สนามบินหลักๆ ทั่วประเทศได้

ผลกระทบนี้เจ็บปวดจริงๆ ค่ะ นายเอ็ด บาสเตียน ซีอีโอของสายการบิน Delta Air Lines ก็ออกมายอมรับเลยว่า การยกเลิกเที่ยวบินที่เกี่ยวข้องกับ Shutdown จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาสนี้แน่นอน แม้จะหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติทันช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้าที่กำลังจะมาถึงก็ตาม

 

"ประชาชน" คือผู้ได้รับผลกระทบตัวจริง

เรื่องที่น่ากังวลที่สุดคือผลกระทบต่อคนทั่วไปค่ะ โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อย 42 ล้านคน ที่ต้องพึ่งพาโครงการ "ฟู้ดแสตมป์" (Food Stamps) หรือโครงการช่วยเหลือด้านอาหารของรัฐบาล คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับสวัสดิการของเดือนพฤศจิกายนเลยนะคะ

และถึงแม้ Shutdown จะจบแล้ว เงินก็ยังไม่เข้าทันทีค่ะ รัฐต่างๆ บอกว่าต้องใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์ในการอัปเดตไฟล์ผู้รับผลประโยชน์และเติมเงินลงในบัตรเดบิต แถมยังมีปัญหาคอขวดอีก เพราะผู้ให้บริการบัตรรายใหญ่มีแค่สองเจ้า ลองนึกภาพว่าทุกรัฐต้องเร่งเติมเงินให้ประชาชนพร้อมกัน... มันต้องวุ่นวายแน่นอนค่ะ

ไม่เพียงเท่านั้น พนักงานรัฐบาลส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับเงินเดือนมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนที่ถูกสั่งให้หยุดงานหรือคนที่ยังต้องมาทำงานก็ตาม (ยกเว้นทหารที่รัฐบาลหาทางจ่ายเงินให้ด้วยวิธีที่ค่อนข้างเป็นที่ถกเถียงกัน)

 

เศรษฐกิจพัง ตลาดการเงิน "ตาบอด"

การปะทะกัน 6 สัปดาห์นี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างหนัก สำนักงบประมาณรัฐสภา (CBO) ประเมินไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า การปิดหน่วยงาน 6 สัปดาห์ จะฉุดการเติบโตของ GDP ที่แท้จริงในไตรมาสนี้ลงถึง 1.5 จุดเปอร์เซ็นต์ แม้ว่าประมาณครึ่งหนึ่งอาจจะกลับคืนมาได้ในปีหน้าเมื่อทุกอย่างกลับมาทำงานก็ตาม

แต่สำหรับพวกเราในโลกการเงิน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ "การขาดข้อมูล" ค่ะ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลหยุดเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งหมด ทำให้ตลาดเหมือนคนตาบอด คาดเดาทิศทางไม่ถูก

และที่สำคัญ โฆษกทำเนียบขาว คาโรไลน์ ลีวิทท์ ออกมายืนยันแล้วว่า รายงานตัวเลขการจ้างงาน (Jobs report) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือตัวเลขเงินเฟ้อของเดือนตุลาคม มีแนวโน้มสูงที่จะ "ไม่ถูกเผยแพร่" ค่ะ

ตอนนี้นักลงทุนคงต้องรอให้สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ออกปฏิทินใหม่ว่าจะประกาศข้อมูลที่ล่าช้าเหล่านี้เมื่อไหร่

 

วิเคราะห์เกมการเมือง: ใครชนะ? ใครแพ้?

ถ้าถามว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ต้องบอกว่ามันคือ "เกมการเมือง" ล้วนๆ ค่ะ

ฝั่งพรรคเดโมแครตพยายามใช้การต่อรองเรื่องงบประมาณนี้ เพื่อบีบให้มีการต่ออายุ "เงินอุดหนุน" สำหรับนโยบายประกันสุขภาพ Affordable Care Act หรือ "Obamacare" ที่กำลังจะหมดอายุ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด

แต่สุดท้าย... ร่างกฎหมายที่ผ่านสภามานี้ ไม่มี การต่ออายุเงินอุดหนุนดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย

นี่คือเหตุผลว่าทำไมในสภาผู้แทนฯ ส.ส. เดโมแครตส่วนใหญ่ถึงโหวต "คัดค้าน" การเปิดทำการรัฐบาลในครั้งนี้ เพราะพวกเขาไม่บรรลุข้อเรียกร้องหลักนั่นเอง

แล้วมันจบได้ยังไง? ต้องย้อนไปดูที่วุฒิสภา (สภาสูง) ค่ะ ก่อนหน้านี้เดโมแครตในวุฒิสภาใช้สิทธิ์ขัดขวางร่างกฎหมายงบประมาณของรีพับลิกันมาตลอด แต่ในที่สุด ก็มี ส.ว. เดโมแครต 7 คน และ ส.ว. อิสระที่ใกล้ชิดเดโมแครตอีก 1 คน "แตกแถว" ออกมาสนับสนุนร่างงบประมาณชั่วคราวนี้

สิ่งที่พวกเขาได้กลับมาคือ "คำสัญญา" ว่าวุฒิสภาจะมีการลงมติเรื่องการต่ออายุเงินอุดหนุน Obamacare ภายในกลางเดือนธันวาคม... แต่ช้าก่อนค่ะ นั่นเป็นแค่ "คำสัญญาว่าจะโหวต" ไม่ได้รับประกันว่าจะ "โหวตผ่าน" นะคะ และที่แย่ไปกว่านั้น แม้ว่าวุฒิสภาจะโหวตผ่าน นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนฯ (ซึ่งเป็นรีพับลิกัน) ก็ปฏิเสธที่จะให้สัญญาว่าจะนำเรื่องนี้มาโหวตในสภาผู้แทนฯ ด้วยซ้ำ

พูดง่ายๆ คือ เดโมแครตยอมจบ Shutdown โดยที่แทบไม่ได้อะไรเลย ทรัมป์เองก็อ้างว่านี่คือชัยชนะของเขา ในขณะที่นายจอห์นสัน ประธานสภาฯ ก็ออกมาบอกว่า การ Shutdown ครั้งนี้ "โง่เขลาและไร้จุดหมายโดยสิ้นเชิง"

 

บทสรุป: แค่พักรบ... ไม่ใช่สงบศึก

และนี่คือเรื่องสำคัญที่สุดค่ะ งบประมาณชั่วคราวที่เพิ่งผ่านนี้ จะใช้ได้ถึงแค่ 30 มกราคม ปีหน้าเท่านั้น

แปลว่าอะไรคะ? แปลว่าเราอาจจะได้เห็นมหากาพย์ Shutdown กลับมาหลอกหลอนกันอีกรอบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวดีเล็กๆ ในร่างกฎหมายนี้ คือ มีงบประมาณบางส่วนที่ได้รับการอนุมัติยาวไปจนถึง 30 กันยายน ปีหน้าเลย เช่น งบสำหรับโครงการฟู้ดแสตมป์, กระทรวงเกษตร, กิจการทหารผ่านศึก, และ FDA

ดังนั้น ปัญหาเรื่องอาหารของคนรายได้น้อยจะไม่ถูกนำมาเป็นตัวประกันอีกในรอบหน้า และร่างกฎหมายนี้ยังสั่งห้ามการเลิกจ้างพนักงานรัฐบาลไปจนถึง 30 มกราคมด้วย

แต่ตอนนี้ ภายในพรรคเดโมแครตเองก็กำลังลุกเป็นไฟ กลุ่มหัวก้าวหน้าอย่าง MoveOn กำลังโกรธจัดที่ ส.ว. สายกลางยอม "ถอย" ในประเด็นประกันสุขภาพ ถึงขั้นออกมาเรียกร้องให้ ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเดโมแครตในวุฒิสภา ลาออกจากตำแหน่งเลยทีเดียวค่ะ

ดูเหมือนว่าศึกครั้งนี้จะยังไม่จบง่ายๆ ทั้งศึกระหว่างพรรค และศึกในพรรคตัวเองเลยค่ะ

 

 

ที่มาเนื้อหาจาก… เพจ Beauty Investor


บุปผาวดี