หุ้นไทยปิดลบ 11.38 จุด กังวลวิกฤติเมียนมากระทบภาคธุรกิจไทย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 19 กรกฎาคม ปิดที่ระดับ 1,533.43 จุด ลดลง 11.38 จุด (-0.55%) โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,541.55 จุด ต่ำสุดที่ 1,520.77 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 57,674.57 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานลงจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะความกังวลวิกฤติภาคการเงินของเมียนมาที่อาจส่งผลต่อธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในประเทศดังกล่าว ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังระหว่างรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงปลายเดือนนี้
ขณะที่การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/65 แม้คาดว่าจะออกมาค่อนข้างดีขึ้น แต่คงไม่สามารถช่วยผลักดันตลาดได้มากนัก อย่างไรก็ตาม ยแนะนำว่าเมื่อดัชนีปรับลงมาที่ระดับ 1,530-1,500 จุด เป็นช่วงของการเข้าซื้อสะสมหุ้น
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) คาดว่า ตลาดฯจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,515 จุด และแนวต้าน 1,550 จุด แนะติดตาม Sentiment ที่จะเกิดขึ้นจากสถานการณ์ศรษฐกิจในประเทศต่าง ๆ หลังจากเกิดวิกฤติในประเทศศรีลังกา และ ต่อมาคือประเทศเมียนมา
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,136.18 ล้านบาท ปิดที่ 91.25 บาท ลดลง 4.00 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,729.94 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,206.18 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,204.72 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
- BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,801.64 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท