PRM แนวโน้มสดใสในไตรมาส 3/68

มุมมองเชิงบวกจากการประชุมหลังประกาศผลประกอบการ
เรามีมุมมองเชิงบวกจากการประชุมหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2568 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้บริหารคาดว่ากำไรในไตรมาส 3/2568 จะยังคงแข็งแกร่ง หนุนโดยการใช้ประโยชน์จากเรือ FSU ที่เพิ่มขึ้นแตะ 100% ในเดือนก.ค. (เทียบกับเฉลี่ย 88.1% ในไตรมาส 2/2568) ผู้บริหารยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจเรือบรรทุกสารเคมีและคาดว่าจะรับมอบเรือบรรทุกสารเคมีอีกลำในเดือนต.ค. 2568 นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังพิจารณาการเข้าซื้อเรือ FSU เพิ่มเติมอีก 1 ลำในช่วงปี 2568–69
เรือบรรทุกน้ำมันใหม่ 6 ลำมีกำหนดส่งมอบในครึ่งหลังของปี 2569
บริษัทฯ ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับเรือบรรทุกน้ำมันใหม่ 6 ลำที่สั่งต่อในช่วงต้นปี 2568 โดยอู่ต่อเรือในจีนได้เริ่มตัดเหล็กในเดือนก.ค. และคาดว่าจะส่งมอบได้ในครึ่งหลังของปี 2569 (เดือนละ 1 ลำ) เรือบรรทุกน้ำมันใหม่นี้จะมีขนาดใหญ่กว่า 2,499 DWT เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปัจจุบันราว 1,600 DWT และผู้บริหารคาดว่าจะสามารถทำอัตราค่าบริการได้สูงกว่าปัจจุบันราว 20%
คงความสำคัญต่อธุรกิจสนับสนุนนอกชายฝั่ง
บริษัทฯ เดินหน้ามุ่งเน้นธุรกิจสนับสนุนนอกชายฝั่ง โดยคาดว่าเรือรับส่งลูกเรือใหม่ 2 ลำที่ส่งมอบในครึ่งแรกของปี 2568 จะเริ่ม COD ภายใต้สัญญาระยะยาวในไตรมาส 4/2568 ปัจจุบันทั้งสองลำให้บริการภายใต้สัญญาระยะสั้น ผู้บริหารยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโอกาสใหม่ในอ่าวไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเรือ AHTS ซึ่งอาจเป็น upside ในปี 2568
โครงการซื้อหุ้นคืน
ในเดือนก.พ. 2568 บริษัทฯ ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนจำนวน 75 ล้านหุ้น วงเงินรวม 600 ลบ. ต่อมาได้เพิ่มเป็น 175 ล้านหุ้น และวงเงิน 1.4 พันลบ. จนถึงปัจจุบันบริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นคืนไปแล้วประมาณ 105 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 659 ลบ. ซึ่งหมายความว่ายังเหลือหุ้นราว 70 ล้านหุ้นที่สามารถซื้อคืนได้
มุมมอง KS
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 8.45 บาท เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 3/2568 จะยังคงแข็งแกร่ง เติบโตทั้ง QoQ และ YoY หนุนโดยการใช้ประโยชน์จากเรือ FSU ที่สูงขึ้น จำนวนเรือรับส่งลูกเรือที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มเรือ FSO อีกหนึ่งลำ จากประมาณการของเรา หุ้นจะให้อัตราตอบแทนจากเงินปันผล 8.2% ในปี 2568 และ 8.5% ในปี 2569
เราให้ราคาเป้าหมายของ PRM ที่ 8.45 บาท โดยอิงกับ PER ย้อนหลังที่ 9.59 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 5 ปี จากประมาณการของเรา หุ้นกำลังซื้อขายด้วย PER 5.9 เท่าในปี 2568 และ 5.7 เท่าในปี 2569