โดย เจ้าชายกบ
เผยแพร่ : 
107 viewsSAK ประกาศแผนปี 66
ดันพอร์ตสินเชื่อแตะ1.35 หมื่นล้านบาท โต 25%
พร้อมผนึกพันธมิตรลุย “โซลาร์รูฟท็อป” ถือหุ้น 35%
.
SAK ประกาศเป้าหมายปี 2566 ยอดปล่อยเชื่อรวมโต 25% หรือ แตะ 1.35 หมื่นล้านบาท เดินหน้าลุยสินเชื่อโซลาร์หลังตั้งบริษัทร่วมทุน จัดตั้งบริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น 35% คาดยอดขายในปีแรก 5,000 ชุด โดย SAK จะเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมการตลาดและให้บริการสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อป
.
นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK เปิดเผยว่าบริษัทวางเป้าหมายธุรกิจปี 2566 จะมีการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมไม่ต่ำกว่า 25% หรือแตะที่ 1.35 หมื่นล้านบาท ซึ่งสัดส่วนของพอร์ต ส่วนใหญ่ยังคงมาจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถราว 80% ตามด้วยสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพที่ราว 12.1% สินเชื่อส่วนบุคคลที่ 2.7% และสินเชื่อเช่าซื้อ ที่ประมาณ 5.1%
.
ส่วนเป้าหมายของยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนีัที่ 2 -2.5 พันล้านบาท ขณะที่หนี้สงสัยจะสูญ (NPL) บริษัทตั้งเป้ารักษาไม่เกิน 2.5%ด้วยการคัดกรองลูกค้าและการบริหารจัดการที่เข้มงวดมากขึ้น
.
ล่าสุดบริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมทุนกับ บริษัท ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์รูฟท็อปชั้นนำของประเทศไทย จัดตั้งบริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดย SAK ถือหุ้น 35% และบริษัท ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น 65% คาดว่าจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายในม.ค. 2566
.
โดยบริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จะดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย โดย SAK จะเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมการตลาดและให้บริการสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปให้แก่ประชาชนที่สนใจผ่านสาขาของศักดิ์สยามลิสซิ่งที่มีมากกกว่า 1,029 สาขา ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในไตรมาส 1/2566 พร้อมกับตั้งเป้ายอดขายในปีแรกอยู่ที่ 5,000 ชุด
.
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป นับเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและเติบโตสูง เนื่องจากสอดรับนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมภาคธุรกิจและภายในครัวเรือนใช้พลังงานสะอาด โดยคาดการณ์ว่าตลาดโซลาร์รูฟท็อปในประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ยปีละ 22% หรือแตะระดับ 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 2568 (อ้างอิงจาก ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ttb analytics) ซึ่งการผนึกกำลังกับศักดิ์สยามลิสซิ่ง ผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อสังคม วางเป้าหมายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัยภายใน 3 ปีข้างหน้า มากกว่า 200,000 ครัวเรือน และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 500 เมกะวัตต์
