CBG : บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจ Holding Company ลงทุนใน 3 บริษัทย่อย
ประกอบด้วย คาราบาวตะวันแดง (CBD), ตะวันแดง ดีซีเอ็ม (DCM), และเอเชีย แปซิฟิกกลาส (APG)
ถือได้ว่าเป็นหุ้นที่มาร้อนแรงมาตลอดทั้งปี ราคาตั้งแต่ต้นปีนี้อยู่ที่ 33.50 บาท จนมาถึงปัจจุบันราคา 63.50 บาท เพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 89 % ภายในไม่ถึงปี ! (ข้อมูลถึง 4/10/59) นักลงทุนที่สนใจหุ้นเครื่องดื่มชูกำลังนี้จะซื้อยังทันอยู่ไหม?
แนวโน้มธุรกิจ เข้าสู่ตลาดประเทศอังกฤษเป็นอย่างไร?
- เข้าถือหุ้น Intercarabao Limited (ICUK) จำนวน 339 ล้านบาทหรือเข้าถือหุ้น 51% ซึ่งเป็นบริษัทจัดจำหน่ายเครื่องดื่มสินค้าคาราบาวในอังกฤษ จากเดิมให้เป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายสินค้าให้เท่านั้น เพราะเพื่อขยายฐานตลาดธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในตลาดโลก
- และมองเห็นโอกาสเติบโตสูงจากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในอังกฤษ ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก มูลค่าเกือบ 3.6 พันล้านเหรียญฯ เทียบกับมูลค่าตลาดของไทยเพียง 849 ล้านเหรียญฯ
กำไรจะเริ่มออกดอกผลเมื่อใด?
- คาดว่าจะเริ่มรวมงบ 4Q59 ช่วงระหว่างปี 59-61 ยังขาดทุนก่อนที่จะกลับมาเริ่มเห็นกำไรได้ในปี 62 ประเมินยอดขายเพิ่มขึ้นหลังเข้าทำการตลาดได้ 2-3 ปี ประเมินยอดขายปี 61 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท
- ในระยาวจะส่งผลดีต่อยอดขายของ CBG แต่ในระยะสั้น 2-3 ปีแรก ค่อนข้างจะกดดันผลประกอบการของบริษัท
- การขยายกำลังการผลิตขวดแก้ว ช่วยทำให้ต้นทุนลดลง (Economy of scale) ซึ่งผลิตโดย APG ที่เป็นบริษัทย่อยของคาราวบาว คาดเริ่มผลิต 4Q60-1Q61
ฐานะทางการเงินของ CBG ยังดีอยู่ไหม
- เม็ดเงินลงทุนในการขยายกำลังการผลิตขวดแก้ว และกระป๋อง และที่ไปลงทุนในอังกฤษ รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 3.5 พันล้าน โดยที่เงินส่วนนี้จะเอามาจากกระแสเงินสดของบริษัทและกู้ยืมบางส่วน คาด D/E อยุ่ที่ 0.1 เท่า
อย่าลืมดูความเสี่ยงด้วย !
- ทั้งสัดส่วนการส่งออกชะลอตัว ยอดขายในอังกฤษอาจจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย และการรักษายอดขายของการส่งออก และการเก็บภาษีสรรพสามิต
ราคาหุ้น CBG ซื้อได้แล้วหรือยัง?
ราคาเป้าเฉลี่ยของ 6 โบรกเกอร์กับหุ้น CBG
- ตามความคิดเห็นของเหล่านักวิคราะห์ 6 สถาบัน ให้ราคาหุ้น CBG เฉลี่ยอยู่ที่ 66.21 บาท โดยที่ราคาล่าสุดอยุ่ที่ 63.50 บาท ถือได้ว่าราคาหุ้นค่อนข้างจะเคียงเต็มมูลค่าของหุ้นไปแล้ว โดยดูได้ทั้งจากค่า P/E อยู่ที่ 40 กว่าเท่า !
- หากลองคิด PEG (Price to Earning to Growth ratio) คิดง่ายๆ โดยการนำ P/E หารด้วย EPS Growth จะอยู่ที่ประมาณ 3.5 เท่า ซึ่งค่า PEG ของหุ้นที่น่าสนใจ ควรมีค่าน้อยกว่า 1 ดังนั้นสะท้อนได้ถึงความคาดหวังที่สูงจากนักลงทุน
ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ถือว่าค่อยข้างสูงแล้ว ต้องรอดูผลประกอบกาของบริษัทในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่อนำรายได้รวมจากภาคตลาดต่างประเทศเข้ามาด้วยแล้ว กำไรสุทธิจะเติบโตได้เท่าทันกับความคาดหวังของนักลงทุนได้มากน้อยเพียงใด ในขณะที่ปีหน้า M 150 กำลังจะเข้าตลาดหุ้นมาด้วย !
นักลงทุนน่าติดตามตลาดธุรกิจนี้ต่อไปจริง ๆ ครับ ใครมีหุ้น CBG อยู่ตั้งแต่ต้นปีบ้าง?
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : SET, SETTRADE, Efin stockpickup, บทวิเคราะห์ Maybank KimEng, KGI, KSS
หมายเหตุ : ข้อมูลในนี้เป็นข้อมูลไว้ใช้ในการประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น เป็นทัศนะความคิดส่วนตัวของผู้เขียนเอง มิได้มีวัตถุประสงค์เชิญชวนหรือชี้นำหลักทรัพย์โดยเฉพาะแต่อย่างใด โดยที่ข้อมูลนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังวันดังกล่าวนี้