World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

—สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลดลงในวันนี้ (17 ก.ย.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางขาลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนรอติดตามการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินสำคัญจากการประชุมสองวันของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันอังคาร (16 ก.ย.) เพื่อขยายเส้นตายไปจนถึงวันที่ 16 ธ.ค. สำหรับการแยกการดำเนินงานของติ๊กต๊อก (TikTok) ในสหรัฐฯ ออกจากการควบคุมของบริษัทแม่ในจีน หากไม่ดำเนินการตามกำหนด อาจถูกสั่งแบนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ

การขยายเวลาครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ และจีนใกล้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการโอนสินทรัพย์ของ TikTok ในสหรัฐฯ จากบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance Ltd.) ให้ผู้ถือครองชาวอเมริกัน

ก่อนหน้านี้ เส้นตายเดิมซึ่งเป็นการขยายครั้งที่สาม มีกำหนดสิ้นสุดลงในวันพุธนี้ (17 ก.ย.) แต่หลังการเจรจาสองวันที่กรุงมาดริด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุ "กรอบข้อตกลง" เพื่อเปิดทางให้ TikTok ยังคงให้บริการแก่ผู้ใช้งานชาวอเมริกันราว 170 ล้านคนต่อไป

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับติ๊กต๊อก (TikTok) แล้ว

"เราได้ข้อตกลงเกี่ยวกับ TikTok แล้ว ผมได้บรรลุข้อตกลงกับจีน และผมจะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี ในวันศุกร์นี้เพื่อยืนยันทุกอย่าง" ปธน.ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าวก่อนออกจากทำเนียบขาวเพื่อเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขามีรายชื่อกลุ่มบริษัทที่ต้องการซื้อกิจการ TikTok ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทออราเคิล คอร์ป พุ่งขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังมีรายงานว่า ออราเคิลอยู่ในกลุ่มบริษัทที่จะเข้าซื้อกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ

-- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้บริษัทต่าง ๆ รายงานผลประกอบการทุก ๆ 6 เดือน แทนที่จะเป็นทุกไตรมาส จะเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุน

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เสนอให้มีการยกเลิกรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทจดทะเบียน โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้ผู้บริหารบริษัทสามารถมุ่งเน้นเป้าหมายระยะยาวได้มากขึ้น แทนที่จะยึดติดกับตัวชี้วัดระยะสั้น

-- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ ใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน

เบสเซนต์กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC ว่า เขาคาดว่าสหรัฐฯ จะมีการเจรจากับจีนอีกครั้ง ก่อนถึงกำหนดการบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ต่อจีนในเดือนพ.ย.

"เราจะได้พบกันอีกครั้ง โดยการเจรจาแต่ละครั้งมีความคืบหน้าและเกิดผลมากขึ้น ผมคิดว่าตอนนี้จีนเริ่มรับรู้ได้แล้วว่าเราสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า" เบสเซนต์กล่าว

-- หนังสือพิมพ์ Kinh Te & Do Thi ของเวียดนามรายงานว่า รัฐบาลเวียดนามได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อขายทองคำ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสของตลาด และควบคุมการเก็งกำไร หลังเกิดความผันผวนอย่างรุนแรงของราคาทองคำภายในประเทศ

ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้สั่งการให้ธนาคารกลางเวียดนามเพิ่มการตรวจสอบและดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อการปั่นตลาดและการกักตุนทองคำที่มีเป้าหมายในการดันราคา รวมทั้งการซื้อขายที่ผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของตลาดทองคำ

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค.

เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนก.ค.

หากไม่รวมยอดขายน้ำมันและรถยนต์ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค.

-- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนก.ค.

เมื่อเทียบรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค.

-- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ (17 ก.ย.) ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนส.ค., สิงคโปร์เปิดเผยยอดส่งออกไม่รวมน้ำมันเดือนส.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ธนาคารกลางอินโดนีเซียแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. และสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 18 ก.ย.)